ขับรถเที่ยวอังกฤษ สก็อตแลนด์ Part 4 : การขอ VISA อังกฤษ

The ultimate Road trip across UK

London – Scotland – Isle of Skye

Part 4 : Apply for a UK VISA

ถึง…เธอ

หากเปรียบเทียบช่วงของการร่างโปรแกรมท่องเที่ยวว่าจะไปเที่ยวที่ไหน กินอะไร นอนโรงแรมแบบไหน เป็นเสมือนช่วงเวลาแห่งการขึ้นสวรรค์  ผมก็อยากเปรียบช่วงของการขอ VISA ว่าเป็นเสมือนหนึ่งการไปทัวร์นรก 555  เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่มีแต่ความเคร่งเครียด ด้วยประเทศอังกฤษเป็นประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อลือชาถึงความความโหดหินในการอนุมัติ VISA เช่นเดียวกับอเมริกาหรือประเทศชั้นนำในยุโรปอื่นๆ

แม้หลายเสียงจะบอกว่าถ้าเตรียมตัวมาดี มีเอกสารครบ หลักฐานต่างๆหนาแน่นก็จะผ่านได้ไม่ยาก แต่เมื่อถึงเวลาจริง แม้จะทำทุกอย่างตามคำแนะนำแล้ว ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่อดประหวั่นพรั่นพรึง ในใจคิดโน้นคิดนี่ในแง่ร้ายต่างๆนานาไม่ได้

แม้พาสปอร์ตของผมจะมีการประทับตราเข้าออกจากประเทศต่างๆมากมาย มี VISA อเมริกา 10 ปี มี VISA เชงเก้น มี VISA ออสเตรเลีย หลักฐานทางการเงินก็พอประมาณ การงานมั่นคง แต่สุดท้ายก็อดจะคิดถึงมุมลบไม่ได้อยู่ดี พอมีอะไรนิด อะไรหน่อย ก็มักจะนำมาตีความไปในแง่ร้ายเสมอ

กรอกเอกสารผิดก็เครียด ได้รับเมลยืนยันช้ากว่าคนอื่นก็เครียด  แถมช่วงที่ผมยื่น VISA นั้นเป็นช่วงที่สถานกงสุลอังกฤษกำลังทดลองฟอร์มใหม่ ( แต่ก็ยังมีฟอร์มเก่าให้โหลด) ผมเลยดันเผลอไปกรอกฟอร์มเก่าส่ง ส่วนเพื่อนๆทั้งหมดกรอกฟอร์มใหม่ งานนี้เรียกว่าเป็นช่วงสติแตกเลยจริงๆ 5555

ที่อยากเล่าตรงนี้ไว้ก่อนเพราะอาการเหล่านี้อาจจะมาเยือนคุณเมื่อถึงคราวที่ต้องที่ต้องยื่น ยื่นขอ VISA อังกฤษบ้าง แต่เมื่อผ่านจุดนั้นมาแล้ว ผมอยากบอกเหมือนคนอื่นๆ ว่าอย่าไปเครียดเลยครับ สิ่งสำคัญที่อยากจะแนะนำคุณมากกว่าคือทำการบ้านดีๆ อ่านเยอะๆ เตรียมตัว เตรียมเอกสารและหลักฐานต่างๆให้พร้อมโดยยึดข้อมูลจากสถานทูตเป็นหลัก   (เพราะข้อมูลจากรีวิวต่างๆอาจจะไม่อัพเดท อันนี้เตือนให้ระวังจริงๆ)

เมื่อคุณทำทุกอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้วก็ปล่อยวางเถอะครับ จากนั้นท่องพุทโธ พุทโธ พุทโธ รอวันผล VISA ออกอย่างเดียว เพราะเครียดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาจริงๆครับ

ขั้นตอนการขอวีซ่าอังกฤษ

การยื่น VISA ประเทศอังกฤษในปัจจุบันจะทำการยื่นผ่านตัวแทนอย่างเป็นทางการของสถานทูตอังกฤษคือบริษัท VFS ซึ่งเป็นบริษัทรับยื่น VISA ให้หลายประเทศรวมทั้งประเทศอังกฤษ โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลการยื่น VISA ได้ที่ https://www.vfsglobal.co.uk

แต่ก่อนจะไปยื่น VISA ได้เราต้องเข้าไปทำการกรอกเอกสาร นัดหมายวันยื่น VISA และชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ก่อน โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. เข้าไปที่ website ในการกรอกเอกสารเพื่อยื่นVISA ที่ visa4uk.fco.gov.uk

เมื่อเข้าไปแล้วระบบจะให้เราสร้าง account ส่วนตัวขึ้นมาซึ่งจะใช้ตลอดในการยื่น VISA

จะสังเกตุว่าด้านบนจะมีกรอบข้อความที่แจ้งว่าขณะนี้ทางสถานทูตกำลังทดสอบระบบการยื่น VISA ระบบใหม่ ซึ่งมี Link ให้คลิ๊กไปยังระบบใหม่ด้วย

ตรงนี้เองที่ทำเอาผมเครียด นอนไม่หลับไปหลายวันเพราะว่าผมไม่ได้กดไปตาม link ที่ให้มาใหม่นั้น แต่เดินหน้าทำตาม Processในหน้าจอแรกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งจบ Process

มารู้ตัวเอาอีกทีเมื่อเพื่อนคนอื่นๆเข้ามากรอกข้อมูล VISA หลังผมแล้วขอดูตัวอย่างที่ผมแคปหน้าจอเก็บไว้ให้เพื่อนซึ่งก็พบว่า….หน้าตาฟอร์มการขอ VISA ของผมกับของเพื่อนไม่เหมือนกันค้าบบบบบ งานนี้เลยรู้สึกงานเข้าเลย

ที่สำคัญพอไปเช็คคนที่เพิ่งยื่น VISA คนอื่นๆ พบว่าหน้าตาเหมือนกับเพื่อนผม แต่ไม่มีใครเหมือนของผมเลย ซวยละซิทีนี้  ที่สำคัญใครเคยยื่น VISA ยุโรปหรือหลายๆประเทศคงรู้ดีว่าปกติจะไม่มีเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้โทรไปสอบถาม หรือแม้กระทั่ง e-mail ใดๆทั้งสิ้น

ทุกอย่างถ้าทำไปแล้ว ผิดถูกไม่รู้ ต้องไปลุยเอาดาบหน้าสถานเดียว

แต่จริงๆแล้วสถานทูตอังกฤษมีช่องทางให้เราถามคำถาม ซึ่งต้องส่งตรงไปที่กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ตอบกลับมา แต่ไม่ฟรีนะครับ คำถามละ 4 ปอนด์น๊าและอาจจะใช้เวลาด้วย

งานนี้ผมเลยลงทุนขับรถไป VFS สถานที่ยื่นวีซ่าเพื่อไปถามกับตัวเองว่ามันอะไรยังไงกันแน่ เลยได้คำตอบว่าแบบฟอร์มของผมเป็นแบบฟอร์มเก่า ส่วนของเพื่อนเป็นแบบฟอร์มใหม่ที่กำลังทดลองใช้ สามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบฟอร์ม งานนี้ก็เลยโล่งออกไปเปราะนึง  แต่แหมมม ในเวบไซส์จะบอกข้อมูลตรงนี้ไว้หน่อยก็ไม่ได้ว่าใช้ได้ทั้งคู่ พูดตรงๆว่าเครียดจนประสาทจะกิน 555

ถึงตรงนี้ผมขอเอาแบบฟอร์มใหม่ ตามที่ทางสถานทูตกำลังทดลองมาให้คุณดูแล้วกันนะครับว่าทำไง

ถ้าคุณกดไปตาม link ที่ให้ไว้จะมาเจอหน้านี้ ให้เราเลือกภาษาก่อน แนะนำว่าเพื่อความเคลีย และป้องกันความผิดพลาดแม้เพียงน้อยนิดแม้จะเก่งอังกฤษก็ขอให้เลือกภาษาไทยไปเลยจ้า

เราก็ทำตามขั้นตอนและคำถามไปเรื่อยๆคับ

เลือกประเภท VISA สำหรับท่องเที่ยวก็เลือก VISIT

ส่วนคำถามนี้แล้วแต่สะดวกครับ ถ้าไม่แม่นภาษาอังกฤษผมว่าเลือกไทยไปเลย

ยื่นที่ไทยก็ต้องไทยสิ

ปกติไปยื่นกันเองก็ต้องยืนยันว่าไปยื่นได้ครับ

จากนั้นก็จะเป็นการให้ข้อมูลทั่วไปก่อนที่เราจะเข้าไปกรอก VISA ขอให้อ่านตรงนี้ให้เข้าใจก่อนนะครับ มีความสำคัญเหมือนกัน

สุดท้ายก็จะมาจบที่หน้าเดียวกันคือให้เราสร้างaccount ของเราเอง และจะสังเกตุด้านบนจะมีขั้นตอนต่างๆ ให้ทราบว่าแต่ละขั้นเราทำถึงไหนแล้ว และถ้าเสร็จเรียบร้อย เราก็ต้องไปถึงขั้นตอนที่ 6

เมื่อเราสร้างaccount เรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้รับ email แบบนี้

จากนั้นก็เข้าไปกรอกข้อมูลเลยได้เลยคับ  ขอบอกว่าคำถามเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ไม่ต้องซีเรียสครับเพราะเราไม่จำเป็นต้องกรอกให้เสร็จในครั้งเดียว แค่ต้องไม่ลืม save ข้อมูลที่เรากรอกไปแล้วเรื่อยๆ ถ้ากรอกไม่เสร็จค่อยมากรอกใหม่ กรอกไปเรื่อยๆจนเสร็จ ไม่ต้องรีบ แต่ขอให้ข้อมูลถูกต้องและตรงตามความเป็นจริง

ในส่วนของข้อมูลในการกรอกเอกสารยื่น VISA มีคนที่รีวิวไว้ค่อนข้างละเอียดแล้วสามารถไปหาอ่านได้ครับ

• เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะต้องเลือกบริการความเร่งด่วนตามความต้องการ และนัดหมายวันเวลาไปยื่นเอกสารที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า โดยการนัดหมายนี้สามารถเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกได้ผ่านระบบออนไลน์

จะสังเกตว่าทุกครั้งที่เรา log in เข้าไป ระบบจะบอกว่าเราอยู่ตรงสถานะไหนแล้วตลอดเวลา

• เมื่อเลือกวันเวลาที่จะยื่น VISA แล้ว ระบบก็จะเข้าสู่การชำระค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าโดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตและต้องเป็นบัตรประเภท VISA หรือ Master Card เท่านั้น โดยค่า VISA อยู่ที่ 128 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3800บาท

ขอเตือนนิดนึง…ในส่วนของการเลือก option การยื่นจะพบว่ามีทั้ง Standard และ Premium แต่หลายคนอาจจะสังเกตว่าค่าใช้จ่ายนั้นเท่ากัน จนบางคนอาจจะเผลอไปกด Premium เหมือนน้องผมที่ไปด้วยกัน ซึ่งสาเหตุที่ค่าใช้จ่าย standard และ Premium เท่ากันนั้นก็เพราะการยื่นแบบ Premium จะไปเก็บเงินเพิ่มในวันที่ยื่น Visa นั่นเองซึ่งถ้าถามว่ามีอะไรพิเศษสำหรับการยื่นแบบ Premium บ้าง เท่าที่น้องผมได้ก็จะมี

1. สามารถขึ้นไปรอที่ห้องยื่น Visa ได้เลย ( เพราะปกติทาง VSF จะให้ขึ้นไปเป็นรอบๆตามเวลาที่นัด)
2. มีห้องพิเศษให้นั่งรอ แต่ไม่มีอาหารเครื่องดื่มใดๆบริการ
3. มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเอกสารให้
4. ยื่นเอกสารในห้องพิเศษได้เลย
5. แต่ก็ต้องออกมา scan ลายนิ้วมือข้างนอกร่วมกับคนอื่นๆ
6. มี SMS อัพเดท status ของ VISA ให้ตลอด และอาจจะได้เล่มคืนเร็วกว่านิดหน่อย

จากสิทธิพิเศษเหล่านี้ก็ลองคิดเอาเองครับว่าอยากจะใช้บริการยื่นแบบ premium หรือไม่

หลังการชำระเงินเสร็จสิ้น คุณจะได้รับอีเมลยืนยันการชำระเงินเป็นหลักฐาน

• เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับอีเมลยืนยัน ซึ่งจะมีการแจ้งหมายเลขอ้างอิงเอกสารคำร้องขอวีซ่ามาให้ด้วย
• จากนั้นก็ให้เราทำพิมพ์เอกสาร ทั้งคำร้องขอยื่น VISA และใบเสร็จรับเงิน ให้เรารวบรวมเอกสารทั้งหมดไว้เพื่อนำไปใช้ยื่นในวันที่นัดหมาย

Email Confirm การจ่ายเงิน

Email confirm การนัดหมายวันยื่น VISA

วันยื่นวีซ่าอังกฤษ

• การยื่น VISA อังกฤษ เราต้องเดินทางไปยื่นที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) ด้วยตัวเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปแทนได้ โดยต้องเตรียมเอกสารทุกอย่างไปให้พร้อม
• เมื่อไปถึงบริเวณชั้นล่างสุดจะมี Counter ของ VFS สำหรับยื่น VISA อังกฤษ และจะมีป้ายเวลาบอกรอบการยื่น เช่น 8.00 หรือ 9.00  ถ้าเป็นรอบของเราก็ให้เข้าไป Check ชื่อกับเจ้าหน้าที่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ให้รอไปก่อน จนกว่าเจ้าหน้าที่จะประกาศและนำป้ายเวลารอบนั้นมาตั้ง ทั้งนี้คงจะเพื่อไม่ให้ทุกคนขึ้นไปรอแบบแออัดในห้องยื่นวีซ่า
• จากนั้นขึ้นไปชั้น 28 และยื่นเอกสารของเราที่ Counter ด้านหน้าเพื่อรับบัตรคิว จากนั้นก็เข้าไปนั่งรอเรียกตามคิว
• เมื่อถึงคิวยื่น VISA เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสาร พร้อมให้เราเซ็นใบคำร้องขอ VISA ถ้าลืมถ่ายเอกสารอะไรมาก็มีรับถ่ายเอกสารอยู่หน้าห้อง สามารถเดินไปถ่ายได้เลย ถึงตรงนี้ขอแจ้งเรื่องสำคัญว่าถ้ามีคำถามอะไรจะถามเจ้าหน้าที่ หรืออยากแก้ไขข้อมูลอะไรในเอกสาร (ซึ่งแก้ได้ โดยเซ็นชื่อกำกับ) แต่….แต่…แต่…เจ้าหน้าที่จะตอบว่าแล้วแต่ดุลยพินิจของผู้ยื่นเอง บางทีอาจจะมีคำแนะนำให้แต่ก็ให้เราตัดสินใจเอง เพราะต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ที่นี่ไม่ใช่พนักงานสถานทูต เป็นเพียงพนักงานของบริษัทตัวแทนผู้รับยื่น VISA เท่านั้น ซึ่งในห้องจะมีป้ายชัดเจนที่ระบุว่าคำแนะนำ หรือคำตอบใดๆของเจ้าหน้าที่ไม่ใช่คำตอบหรือคำแนะนำจากสถานทูต เพราะฉะนั้นเลยอยากจะบอกข้อมูลตรงนี้ให้ทราบไว้ก่อนนะครับ หากมีอะไรขึ้นมาทีหลังจะมาโวยว่าเจ้าหน้าที่บอกอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ครับ
• เมื่อขั้นตอนยื่นเอกสารเรียบร้อย เราก็ต้องไปนั่งรอคิวอีกครั้งเพื่อเข้าเก็บข้อมูลทางชีวภาพได้แก่ลายนิ้วมือ ( Scan ผ่านระบบออนไลน์) และมีการถ่ายภาพเต็มหน้าแบบเต็มหน้าจริงๆ รูปใน VISA จะหล่อจะสวยก็ตรงนี้แหละ
• เมื่อทำทุกขั้นตอนเรียบร้อยการยื่นขอวีซ่าประเทศอังกฤษก็เป็นอันเรียบร้อยเราก็แค่เพียงรอผลการพิจารณาผ่านทางอีเมล หรือ SMS(ถ้ามีการซื้อบริการนี้ไว้) ซึ่งปกติจะใช้เวลา 15 วันทำการ หรือก็คือ 3 สัปดาห์

เท่าที่ทราบในบางกรณีทางสถานทูตอาจจะมีการสัมภาษณ์ด้วยนะครับ โดยจะมีห้องสัมภาษณ์แบบ  online กับเจ้าหน้าที่สถานทูตอีกห้องนึง ซึ่งหวังว่าคนอ่านทุกท่านจะไม่โดนเพราะถ้าโดนเรียกสัมภาษณ์นี่ก็สัญญาณไม่ค่อยดีล่ะ

• หลังจากทางสถานทูตพิจารณาเสร็จจะมี email มาแจ้งแบบนี้ครับ คืออ่านแล้วความตื่นเต้นก็มาเยือนอีกครั้ง ในอีเมลไม่มีการแจ้งผลใดๆนะครับว่าผ่านไม่ผ่าน แค่แจ้งว่าพิจารณาแล้ว

Email แจ้งว่าสถานทูตได้พิจารณาผล VISA เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่บอกนะว่าผ่านไม่ผ่าน

• จากนั้นจะมี email อีกฉบับจาก VSFแจ้งให้เราไปรับเอกสารและเล่ม VISA คืน

Email แจ้งว่า Passport กลับมาถึง VSF แล้ว

• วันไปรับก็ขึ้นไปข้างบนชั้น 28 ที่เดิมได้เลยคับ ไม่ต้องรอคิว แค่แจ้ง counter ด้านหน้าว่ามารับเล่ม Passport อย่าลืมนำใบเสร็จกับหลักฐานรับพาสปอร์ตมาด้วยนะครับ จากนั้นก็นั่งรอคิวเรียก โดยปกติการไปรับเล่ม Passport คืนจะเป็นช่วงบ่ายครับ ไม่เปิดให้ไปรับตอนเช้า  แต่ก็สามารถให้ขึ้นอื่นมารับแทนได้ครับ ไม่จำเป็นต้องไปด้วยตนเอง
•  เมื่อถึงคิวเจ้าหน้าที่ก็จะคืนเอกสารทั้งหมดตอนยื่น VISA พร้อม passport มาให้โดยซีลปิดไว้ในซองพลาสติกอย่างดี  ที่เหลือก็ต้องไปลุ้นกันเองครับ

เอกสารการขอวีซ่าอังกฤษ

• เอกสารคำร้องขอVISAที่พิมพ์ออกมาจากระบบออนไลน์เรียบร้อยแล้ว
• หมายเลขอ้างอิงเอกสารคำร้องขอวีซ่า(GWF Reference)
• หนังสือเดินทาง( Passport) ต้องเป็นหนังสือเดินทางฉบับล่าสุด มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างอย่างน้อย 1 หน้า ถ้ามีหนังสือเดินทางมากว่า 1 เล่ม ให้เอาไปทุกเล่มเลยคับ
• สำเนาเอกสารแสดงตัว ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาอื่น ๆ ถ้ามี อาทิเช่น สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาทะเบียนหย่า สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล เป็นต้น (พร้อมเอกสารฉบับจริง)
• ใบยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน –ต้องเป็นตั๋วเครื่องบินที่เดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศอังกฤษ และเดินทางกลับถึงประเทศไทยภายในระยะเวลาที่แจ้งไปในใบยื่น VISA
• ใบยืนยันการจองโรงแรมที่พัก ต้องมีให้ครบ ทุกโรงแรมที่พัก
• เอกสารรับรองการทำงานต้องใช้หนังสือรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ โดยต้องมีข้อมูลชื่อองค์กรที่ทำงาน ตำแหน่งงาน เงินเดือน วันเริ่มงาน และควรมีการระบุจุดหมายปลายทาง ช่วงวันเดินทาง และวันที่จะกลับถึงประเทศไทยอย่างชัดเจน พร้อมลงนามและประทับตรา
• รายการเดินบัญชีเงินฝาก– สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากที่มีอายุมากกว่า 1 ปี และปรับรายการเดินบัญชีถึงปัจจุบันถึงย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 6 เดือน  ( ถ้าอัพเดทบัญชีตลอดไม่ต้องขอให้ธนาคารออกให้ก็ได้ครับ ใช้ Bookbank ได้เลย)
• สลิปเงินเดือน– กรณีมีรายได้ประจำ ให้แนบสลิปย้อนหลัง 6 เดือน
• แผนการเดินทางสำหรับแผนการเดินทางผมแนะนำว่าให้เราทำให้ระเอียดเลยว่าวันไหนไปไหน พักที่ไหน เที่ยวอะไร กินอะไร ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ซึ่งปกติเราก็ต้องทำกันไว้อยู่แล้ว ซึ่งแผนการเดินทางนี้จะมีประโยชน์เวลาต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองด้วย
• ประกันการเดินทาง เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันการประกันภัยระหว่างเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยต้องมีวงเงินประกันขั้นต่ำ 2,000,000 บาท

นอกจากนั้นหลักฐานอื่นๆก็สามารถเข้าไปดูได้จากเวบของVSF หรือสถานทูตอังกฤษนะครับ ซึ่งผมอยากย้ำว่าอีกครั้งว่าทุกครั้งที่ต้องเตรียมเอกสารขอให้ไปดูจากเวลทางการเหล่านี้ทุกครั้ง เพราะถ้าไปดูจากที่มีคนรีวิวไว้รวมทั้งของผมเอง ข้อมูลเหล่านี้อาจจะไม่อัพเดท ดังนั้นการไปดูข้อมูลจาก VSF กับ สถานทูตจึงดีที่สุด

สถานที่ยื่นขอวีซ่าอังกฤษ

สำหรับการยื่นคำร้องขอวีซ่าอังกฤษ สามารถไปยื่นได้ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่

สำนักงานกรุงเทพ

อาคาร Trendy ชั้น 28 ซอยสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ 08.30– 16.30 น.

นอกเวลาทำการ: เสาร์ 08.30– 12.00 น. (มีค่าบริการเพิ่มเติม)

เวลารับหนังสือเดินทาง: จันทร์ – ศุกร์ 13.30– 16.00 น.

ตึก Trendy Cr DDproperty.com

สำนักงานเชียงใหม่

อาคารเชียงใหม่ศิริพานิช 191 ชั้น 6 ถ.ห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200

เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ 08.30– 14.30 น.

นอกเวลาทำการ: เสาร์ 09.00– 12.00 น. (มีค่าบริการเพิ่มเติม)

เวลารับหนังสือเดินทาง: จันทร์ – ศุกร์ 14.30– 15.30 น.

หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้คงเป็นประโยชน์กับคุณในวันที่จะต้องไปยื่นVISA อังกฤษบ้าง และขอให้คุณผ่าน ได้ VISA แบบไม่ต้องเครียดนะครับ

รักและคิดถึง

MGASTRONOME

10 พฤศจิกายน 2018

IG : mgastronome_travel

Mgastronome_eat