ถึง…เธอ
ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่การเล่าเรื่องการเดินทางของผมในประเทศญี่ปุ่นในหลายๆทริป ผมได้เริ่มต้นเขียนเล่าให้คุณอ่านถึงโรงแรมต่างๆในโตเกียวที่ผมเคยไปพักซึ่งคุณจะพบว่าวิธีการเดินทางที่ผมใช้ในการเข้าเมืองโตเกียวจากสนามบินนาริตะบ่อยมากที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไปแบบด่วนพิเศษ Skyliner ( ยกเว้นถ้าโรงแรมไหนที่ผมพักมี Limousine Bus จอดถึงหน้าโรงแรม ผมก็จะชอบนั่งรถบัสจากสนามบินไปโรงแรมมากกว่าดังที่ผมอธิบายคุณไปในจดหมายเรื่อง Review โรงแรม Tobu Hotel Levant , Tokyo , Japan)
จดหมายฉบับนี้ผมจึงอยากจะเขียนให้คุณอ่านถึงข้อมูลการใช้รถไฟ Skyliner เข้าเมืองโตเกียว
ก่อนที่ผมจะเขียนถึงวิธีการเดินทางด้วยรถไฟ Skyliner ผมขออธิบายให้คุณเห็นภาพก่อนว่า…การเดินทางเข้าเมืองโตเกียวโดยใช้รถไฟนั้น คุณจะต้องใช้รถไฟสายที่ชื่อว่า Keisei Line ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง Terminal 1, 2 และ 3 โดยจะแบ่งย่อยได้เป็น 3 สายด้วยกันตามความเร็วได้แก่
- Skyliner (เส้นสีฟ้า) เป็นรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งจากสนามบินนาริตะ โดยสามารถขึ้นได้ทั้งจากสถานี Terminal 1 และ สถานี Terminal 2&3 และจะวิ่งเข้าเมืองโตเกียวโดยจอดแค่ 2 สถานีคือ สถานี Nippori ( ใช้เวลา 36 นาที) และสถานี Keisei-Ueno (ใช้เวลา 41 นาที) รถไฟขบวนนี้จะต้องซื้อตั๋วล่วงหน้า และในตั๋วจะระบุที่นั่งให้ชัดเจน รวมทั้งมีที่วางกระเป๋าให้เป็นสัดส่วน รถไฟ Skyliner ขบวนแรกจะวิ่งออกจากสถานี Terminal 1 เวลา 7.30 น เที่ยวสุดท้าย 22.30 น. และ จากสถานี Ueno ซึ่งเป็นสถานีปลายทางจะเริ่มวิ่งตอน 5.50 น. และขบวนสุดท้ายตอน 18.20 น. ค่าโดยสารต่อเที่ยว 2,470 เยน แต่ถ้าเราซื้อแบบไปกลับก็จะได้ราคาที่ถูกลง
- Access Express (เส้นสีส้ม) เป็นรถไฟด่วนแต่ไม่เร็วเท่า Skyliner โดยจะวิ่งจอดตามสถานีที่เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ ได้แก่ Oshiage ( ตึก Sky tree), Asakusa, Nihombashi , Ueno และวิ่งไปสุดสายที่สนามบิน Haneda ได้เลย รถไฟสายนี้จะวิ่งช้ากว่า Skyliner แต่ก็ถือว่ายังเร็วโดยถ้าเปรียบเทียบจากสนามบินนาริตะไปสถานี Keisei Ueno ก็จะใช้เวลา 63 นาที (Skyliner ใช้เวลา 41 นาที) ซึ่งถ้าคุณจะไปสถานี Ueno จะเห็นว่าคุณต้องเปลี่ยนขบวนที่สถานี Auto โดยค่าบัตรโดยสารก็แล้วแต่ละสถานีที่คุณจะลง โดยถ้าคุณจะลง Ueno ก็มีราคาค่าโดยสารประมาณ 1,240 เยน ( ครึ่งหนึ่งของ Skyliner) รถไฟ Access Express จะวิ่งตั้งแต่ตี 5 ถึงประมาณ 4 ทุ่มซึ่งต้องลองไปเช็คเวลาที่แน่นอนอีกครั้งครับ
- Keisei Main Line (เส้นสีแดง) เป็นรถไฟวิ่งแบบหวานเย็น 555 ถือเป็นขบวนที่คนญี่ปุ่นใช้เดินทางเป็นปรกติจึงมีค่าโดยสารที่ไม่แพง แต่ข้อเสียคือจะมีการวิ่งเพียง 3 ขบวนใน 1 ชั่วโมง วิ่งไม่เร็วมาก และผมไม่แนะนำให้ใช้รถไฟขบวนนี้ในชั่วโมงเร่งด่วนเพราะจะมีผู้โดยสารแบบอัดแน่น ในขณะที่คุณต้องมีข้าวของพะรุงพะรัง รวมทั้งมีกระเป๋าใบใหญ่จึงถือว่าไม่สะดวกเลย โดยถ้าเปรียบเทียบกับสถานี Ueno เหมือน 2 ข้อข้างต้น การโดยสารรถไฟขบวนนี้จะใช้เวลาประมาณ 80 นาที โดยมีค่าโดยสาร 1,030 เยน และจะวิ่งตั้งแต่ตี 5 ถึง 5 ทุ่ม แต่เวลาอาจจะเปลี่ยนตามขาเข้าและขาออก รวมทั้งวันธรรมดาและวันหยุด อาจต้องเช็คเวลาอีกครั้ง
โดยสรุปถ้าจะเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้ง 3 ขบวน โดยยึดจากสนามบินนาริตะ ไปสถานี Ueno จะเห็นความแตกต่างได้ดังนี้
- Skyliner ใช้เวลา 41 นาที ค่าโดยสาร 2,470 เยน
- Access Express ใช้เวลา 63 นาที ค่าโดยสาร 1,240 เยน
- Keisei Main Line ใช้เวลา 80 นาที ค่าโดยสาร 1,030 เยน
เมื่อเห็นความแตกต่างของทั้ง 3 รูปแบบแล้วผมขอกลับมาที่การเดินทางโดยใช้ Skyliner ซึ่งเป็นวิธีการเดินทางที่ผมใช้บ่อย โดยถ้าคุณมาลงที่สนามบินแล้วและได้ออกจากจุดตรวจมายังโถงของ Terminal แล้วขอให้มองหาป้าย Train แล้วเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ( อาจะแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่าง Terminal 1 กับ 2 ) แต่หลักๆให้มองหาป้าย Train ก่อนนะครับ
จนกระทั่งเจอจุดขายตั๋ว Skyliner & Keisei Line Information Center ก็เดินเข้าไปซื้อตั๋วด้านในเลยครับ
บริเวณจุดซื้อตั่วเจ้าหน้าที่จะอธิบายประเภทของตั๋วให้คุณทราบ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามสะดวก ในส่วนของผม ผมเลือกซื้อแบบไปกลับ และซื้อตั๋ว Subway แบบ one day pass ซึ่งจะทำให้ผมขึ้นรถไฟใต้ดินได้ไม่จำกัดใน 1 วัน เพราะฉะนั้นถ้าคุณเดินทางมาถึงเช้าและมีแผนเที่ยวเลย โดยมีจุดที่ต้องเดินทางหลายจุดก็ซื้อแบบนี้ไว้เลยครับ คุ้มดี
จากนั้นก็เดินผ่านจุดตรวจตั๋ว
เลี้ยวเข้าซุ้มประตูสีส้มไปชานชาลาที่ 1
บริเวณพื้นและที่กั้นจะมีการบอกตำแหน่งของตู้ของ Skyliner ที่จอด คุณต้องไปยืนรอตามที่ระบุในตั๋วนะครับว่าต้องขึ้นตู้ไหน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินหาในขบวน
เมื่อขบวนรถไฟมาคุณก็ขึ้นไปนั่งตามที่นั่งที่ระบุไว้ โดยก่อนถึงที่นั่งจะมีโซนให้คุณเก็บกระเป๋าเดินทางไว้ได้
ระหว่างทางจะมีทั้งจอมอนิเตอร์และเสียงประกาศตลอดว่าสถานีต่อไปที่จอดคืออะไร เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวจะลงผิดสถานี
เมื่อไปถึงสถานี Keisei-Ueno แล้วก็ออกจากช่องตรวจตั๋วแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอบันได้ทางขึ้นไปด้านหน้าสถานี ซึ่งก็คือย่านอุเอโนะแล้ว โดยตลาด Ameyoko จะอยู่ด้านหน้าสถานีโดยข้ามถนนไป ส่วนด้านหลังของสถานีคือสวน Ueno Park
โปรดสังเกตุว่าผมจะเรียกสถานีนี้ว่า Keisei Ueno มาตลอดเพราะสถานีนี้เป็นคนละสถานีกับสถานี Jr ueno แต่ก็อยู่ติดกัน เรียกว่าอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกันแค่นั้นครับ
ส่วนวันกลับ คุณก็มาซื้อตั่วที่ Counter ขายตั๋วปกติ แต่ในกรณีที่คุณซื้อตั๋วไปกลับแบบผม ก็เอาตั๋วขากลับไปเปลี่ยนเป็นขบวนที่คุณต้องการขึ้นที่จุดขายตั๋วเช่นกัน
จากนั้นก็เดินเข้าสถานีไปรอยังชานชาลาที่ระบุในตั๋ว แล้วก็รอรถไฟนั่งกลับไปสนามบิน
จะเห็นว่าการเดินทางระหว่างสนามบินและเข้าเมืองนั้นไม่ยากเลยครับ หวังว่าจดหมายฉบับนี้คงจะเป็นประโยชน์ใช้คุณใช้เป็นข้อมูลในการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นให้สนุกได้นะครับ
อยากให้คุณไปอยู่ตรงนั้นด้วยกัน
รักและคิดถึง
mgastronome
20.5.19
3 thoughts on “วิธีเข้าเมืองโตเกียวจากสนามบินนาริตะแบบด่วนๆด้วย Skyliner”