ถึง…เธอ

คงเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าก่อนที่จะเข้าสู่การนำเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ผมจะเขียนจดหมายมาแนะนำโรงแรมที่ผมพักค้างคืนในสถานที่นั้นๆ ให้คุณอ่านกันก่อน

ในจดหมายฉบับนี้ก็เช่นกัน ก่อนที่ผมจะนำคุณไปเที่ยว Hakone สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังใกล้ๆโตเกียวซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักค้างคืนกันเนื่องจาก Hakone มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุด เป็นสถานที่ชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม และยังเป็นแหล่งแช่ออนเซนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

โรงแรมที่ผมเลือกไปพักที่ฮาโกเน่คราวนี้คือ โรงแรม Hotel Green Plaza Hakone ซึ่งเป็นโรงแรมที่ผมอยากจะแนะนำคุณมากๆ

จุดเด่นของโรงแรมแห่งนี้ที่ทำให้ผมตัดสินใจจองโรงแรมแห่งนี้แบบไม่ลังเลโดยแทบไม่ได้อ่านรีวิวใดๆเลยก็คือ…โรงแรมแห่งนี้มีออนเซนที่เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิแบบชัดเจนมากๆ

fuji
hotelgreenplazahokone.com

และเมื่อมีโอกาสไปพักแล้ว โรงแรม Hotel Green Plaza Hakone นอกจากจะมีออนเซ็นทที่มีวิวสวยสุดบรรยายแล้ว ทั้งห้องพักและอาหารของที่นี่ก็ดีมากๆ เช่นกัน เรียกว่าแม้ราคาจะสูงสักนิดแต่ก็คุ้มค่า

วิธีการเดินทาง

การเดินทางไปโรงแรม  Hakone Green Plaza Hotel มีได้หลายวิธี แต่ทุกวิธีก็ต้องตั้งต้นเหมือนกับการไปเที่ยวฮาโกเน่แบบทั่วไป คือต้องมาเริ่มต้นที่สถานีชินจูกุ เพื่อนั่งรถไฟหรือรถบัสแล้วเลือกไปได้ 2 สถานี Odawara หรือ สถานี Hakone Yumoto Station

  1. สถานี Odawara ให้ออกทาง East Exit แล้วเดินไปรอรถที่ป้ายรถบัส 5  ไปลงสถานี Ubako ค่าโดยสาร 1,100 เยน โดยเที่ยวสุดท้ายที่วิ่งคือ 19.00(แต่ผมไม่แนะนำให้ไปดึกมากเพราะจากป้ายรถเมย์ยังต้องเดินกันไปอีก)
  2. สถานี HakoneYumoto Station ซึ่งเป็นสถานีที่ผมเลือกเดินทางจากสถานีนี้ เมื่อออกจากสถานีแล้วให้เดินไปป้านรถเมล์ฝั่งตรงข้าม ป้ายที่ 2 แต่เพื่อให้ชัวร์ให้ลองถามเจ้าหน้าที่แถวนั้นว่าถ้าจะไปสถานี Ubakoต้องขึ้นที่สถานีหมายเลขไหน หรือสามารถดูจากป้ายได้ครับ ค่าโดยสารประมาณ 860 เยน

แต่ถ้าคุณมี Hakone Free Pass  คุณสามารถใช้ Hakone Tozan Bus “T” โดยให้นั่งรถบัสที่จะวิ่งไปสถานี Togendai แต่คุณต้องลงที่สถานี Onsenso จากนั้นให้โทรหาโรงแรมเพื่อให้รถ Shuttle Bus มารับที่หมายเลข  +81 460-84-8611

จริงๆแล้วการเดินทางไปโรงแรมยังสามารถใช้บริการ Cable Car ได้ด้วยแต่เนื่องจากบางครั้งการให้บริการของ Cable Car จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ดังนั้นจึงอาจจะปิดได้ แต่ถ้าคุณใช้บริการท่องเที่ยวด้วย Cable Car อยู่แล้ว จะสังเกตว่าเราจะผ่านสถานี Obako ซึ่งปกติจะไม่จอดถ้าไม่มีคนลงหรือคนขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะลงสถานีนี้ก็ต้องมายืนรอตรงประตูเพื่อให้รู้ว่าคุณจะลงสถานีนี้

โดยจากสถานีCable Car Obako คุณต้องเดินอีกนิดหน่อยเพื่อไปยังโรงแรม แต่ขากลับคุณสามารถใช้บริการ shuttle bus ของโรงแรมเพื่อกลับมาที่สถานีCable Car Obako ได้

ในวันที่ผมเข้าพักที่โรงแรม Hotel Green Plaza Hakone ผมได้check out จาก โรงแรม Centurion Hotel & Spa Ueno Station , Tokyo , Japan ที่ผมเคยเขียนมาเล่าให้คุณอ่านแล้ว จากนั้นก็นำกระเป๋าใบใหญ่ไปฝากไว้ที่ตู้รับฝากกระเป๋าที่สถานี Ueno จากนั้นผมก็เอาแค่กระเป๋าใบเล็กสำหรับค้าง 1 คืนไปซึ่งจะสะดวกกว่ามากเพราะในวันนี้แผนของผมคือผมจะท่องเที่ยวก่อนที่จะไป check in ที่โรงแรมในตอนเย็น

1.2
เอากระเป๋าใบใหญ่ไปฝากตู้ locker ไว้ เอากระเป๋าค้างคืนเล็กๆไปแทน

การเดินทางผมก็เริ่มจากสถานี Shijuku และออกทางประตู West Exit เพื่อไปขึ้นรถไฟยัง Hakone โดยใช้ Hakone Kamakura Pass ที่ผมซื้อไว้ล่วงหน้าแล้วและผมเคยเขียนมาเล่าแล้วในตอน เที่ยว Kamakura / Enoshima และ Hakone 3 วัน 2 คืนด้วย Hakone Kamakura Pass Part 2 : Hakone Kamakura Pass ซึ่ง Pass ตัวนี้สามารถใช้ในการท่องเที่ยวทั้ง Hakone / Kamakura และ Enoshima ได้ภายในเวลา 3วัน

47

ถ้าคุณมี Hakone Pass อยู่แล้วก็สามารถเอามาใช้ได้เลยซึ่งผมแนะนำให้มาซื้อล่วงหน้าไว้ก่อนเพราะถ้ามารอซื้อวันเดินทาง ถ้าคิวยาวจะเสียเวลาไปเปล่าๆ

จากสถานี Shinjuku ผมก็ใช้ Pass เข้าไปในชานชาลาของขบวนรถ Odakyu เนื่องจากได้จองตั๋วที่นั่ง Ramance Car มาแล้วจากเมืองไทยและได้ออกตั๋วไว้แล้วล่วงหน้าตอนมาซื้อ Hakone Kamakura Pass ผมก็แค่มองหาเวลาเที่ยวรถตามที่ผมจองตั๋วไว้แล้วก็ไปรอขึ้นตามชานชาลาที่ระบุ

2

3

จากสถานีชินจูกุ ผมนั่งรถขบวน Romance Car ยาวไปลงที่สถานี Hakone Yumoto Station ซึ่งในขบวนรถจะมีรถเข็นอาหารมาบริการด้วย ผมก็เลยรอมาทานมื้อเช้าในขบวนรถนี้โดยตั้งใจจะทานเบนโตะที่กล่องเป็นขบวนรถไฟ แล้วก็ได้ทานสมใจอยาก

14

16

เมื่อถึงสถานี Hakone Yumoto Stationโดยใช้เวลา 90 นาที (ขบวนรถปกติจะใช้เวลา2 ชั่วโมง) ผมก็นำกระเป๋าไปฝากตู้ฝากกระเป๋าหน้าสถานีไว้ก่อนแล้วก็เริ่มเที่ยวใน Hakone

27
เอากระเป๋ามาฝากไว้ก่อนจะได้เที่ยวสะดวก

เส้นทางท่องเที่ยวใน Hakone จะวนเป็นวงกลมจะวนทางไหนก่อนก็ได้แต่ก็จะกลับมาที่สถานี Hakone Yumoto Station อีกครั้ง

35

49

66

105

เมื่อมาถึงสถานี ผมก็ไปเอากระเป๋าจากตู้ฝากกระเป๋าแล้วข้ามถนนมาขึ้นรถบัสฝั่งตรงข้าม โดยถามเจ้าหน้าที่แถวนั้นว่าถ้าจะลงสถานี Obako ผมต้องรอตรงไหน เจ้าหน้าที่ซึ่งหน้าดุแต่ใจดีก็บอกให้ไปรอตรงช่องที่ 2

124

125

เมื่อรถมาผมก็รีบขึ้นไป ซึ่งตรงนี้ต้องเตรียมเหรียญไว้ให้พอดีสำหรับหยอดด้วยนะครับ ประมาณ 860 เยน จากนั้นก็นั่งไปเรื่อยๆ โดยบนจอมอนิเตอร์หน้ารถจะคอยบอกตลอดว่าเรากำลังไปถึงสถานีไหนแล้ว และเมื่อจะลงก็จะมีปุ่มให้กดกริ่งได้ อยู่พนักด้านหน้าเลย

129

รถคันนี้จะขับมาผ่านตรง owakudani ที่เป็นจุดน้ำพุร้อนและไข่ดำที่มีชื่อเสียงด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะแพลนขึ้นรถจากจุดนี้ก็ได้ จาก owakudani ไปยังป้าย Obako นั้นใช้เวลาอีกไม่นาน น่าจะสัก 2-4 ป้ายเท่านั้น โดยป้าย Obako นั้นจะเป็นป้ายรถเมล์เล็กๆอยู่ริมถนน 

131
จากป้ายรถเมล์ Obako ให้ข้ามไปฝั่งตรงกันข้ามแล้วเดินไปตามถนนเลย จะเห็นป้ายไปสถานีกระเช้า Obako ด้วย

เนื่องจากตั้งแต่เช้าวันนี้ที่ผมเดินทางมาแล้วฮาโกเน่ บรรยากาศไม่ค่อยเป็นใจเพราะมีหมอกและฝนตกลงมาเป็นระยะๆ อากาศก็หนาวเย็นลงเรื่อยๆ

1.1
เจออุณหภูมิ -1 เข้าให้

ตอนที่ผมลงรถที่ป้าย Obako ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันคืออยู่ดีๆ หิมะก็ตกลงมา ซึ่งในมุมก็น่าตื่นเต้นดีครับ แต่ปัญหาคือจากป้ายรถเมล์ผมต้องเดินไปโรงแรมอีกราว 500 เมตร โดยให้ข้ามถนนไปอีกฝั่ง แล้วเดินเข้าไปในถนนที่ลึกเข้าไปด้านในเลยครับ ซึ่งระหว่างเดินจะเห็นว่ามีกระเช้าลอยฟ้าอยู่ด้านบน ซึ่งอย่างที่ผมบอกครับว่าตรงจุดนี้สามารถมาลงที่สถานี Obako จากกระเช้าได้เช่นเดียวกัน

133
กระเช้าจะผ่านไปบนหัวเลย

ผมเดินไปราวๆ 500 เมตรตามถนนโดยสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ ท่ามกลางหิมะที่เริ่มตกลงมาหนักขึ้น สักพักก็จะเห็นทางเข้าโรงแรมอยู่ซ้ายมือ นาทีนั้นเลยกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปที่โรงแรมครับ

132

135
ทางเข้าโรงแรม
136
หิมะเริ่มลง

138

139

ทางเข้าโรงแรมจะมีผ้าขนหนูให้บริการไว้เช็ดเนื้อเช็ดตัวด้วย จากนั้นก็ไป check in และรับกุญแจเข้าห้องครับ โดยระหว่างที่กำลังเช็คอิน เจ้าหน้าที่จะให้เราจองเวลาสำหรับ Dinner ด้วย เนื่องจากแขกที่มาพักค่อนข้างเยอะ (คือเต็มทุกห้อง) ดังนั้นการทานอาหารต้องทานเป็นรอบๆ เพราะอาหารเย็นที่นี่เป็นบุฟเฟย์ครับ (ซึ่งดีงามมากๆ)

243

140
lobby

169

หลังจากจองเวลาทานอาหารและรับกุญแจแล้ว ผมก็รีบไปที่ห้องซึ่งระหว่างทางก็สำรวจโน่นนี่นั่นไปด้วย จริงๆแล้วโรงแรมแห่งนี้ไม่ได้ใหม่มาก แต่ก็มีความโออ่าสวยงาม

166

168

167

ยิ่งเมื่อเข้าไปในห้องซึ่งผมจองไว้เป็นแบบห้องนอนญี่ปุ่นก็เห็นสภาพว่ากึ่งเก่ากึ่งใหม่ และดูดี ไม่ได้แย่อะไรนะครับ โดยห้องถือว่าค่อนข้างกว้างขวางเลยและจะแบ่งเป็น 3 ส่วน

ส่วนด้านหน้าจะเป็นห้องน้ำ ตู้เย็นและจุดวางรองเท้า

142

161
รองเท้าสำหรับใส่เดินในโรงแรม

157

158

159
อ่างล้างหน้าจะอยู่หน้าห้องน้ำ

ส่วนตรงกลางจะเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าและการแต่งตัว แต่เมื่อมีการมาปูที่นอนแล้ว จะมีการย้ายโต๊ะนั่งมาไว้ตรงส่วนนี้

145

152

150

153

154
เสื้อยูคาตะพวกนี้ใส่แล้วเดินในโรงแรมได้เลย

ส่วนในสุดจะเป็นพื้นที่โต๊ะนั่งสำหรับพักผ่อน มีทีวี กาน้ำร้อนบริเวณนี้ แต่ตรงส่วนนี้ตอนเย็นๆระหว่างเราไปทานอาหาร แม่บ้านจะแอบ (555)เข้ามาปูที่นอนให้ และจะย้ายโต๊ะไปไว้ตรงส่วนกลางแทน

147

149

162
มาม่าคือซื้อมาเองนะคับ เพราะตอนแรกนึกว่าอาหารเย็นมาเป็นเซตซึ่งกินไม่ค่อยอิ่ม 555 เพิ่งมารู้ว่าเป็นบุฟเฟย์
204
ระหว่างทานมื้อเย็น แม่บ้านจะแอบมาปูเตียงให้ แล้วย้ายตรงไปส่วนกลางแทน

205

ส่วนสุดท้ายจะเป็นระเบียงเล็กๆให้ออกไปสูดอากาศข้างนอกได้

ตอนนั้นผมมองออกไปนอกหน้าต่าง หิมะยังลงหนักมาเรื่อยๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่ได้มาเห็นวิวฮาโกเน่ตอนหิมะตก เพราะสวยมากๆครับ

แต่ด้วยความที่หิมะตกหนัก ทำให้ผมไม่ทราบว่าจากห้องนี้สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย

148

160

หลังจากจัดแจงข้าวของและนั่งพักกันพอสมควรแล้ว ผมก็ชวนกันไปทานมื้อเย็นซึ่งห้องอาหารจะอยู่ด้านล่างบริเวณ lobbyเมื่อไปถึงก็แจ้งชื่อกับห้องครับ เจ้าหน้าที่ก็จะเช็คว่าตรงกับที่เราจองไว้หรือไม่

หลังจากแจ้งชื่อแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะนำไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมกับบัตรจองโต๊ะให้เรียบร้อย

170

173

171

สำหรับห้องอาหารเย็นแบบบุฟเฟย์ที่นี่ต้องบอกว่าดีงามมากครับ ตั้งแต่นาทีแรกที่เข้าไปสิ่งแรกที่รู้สึกคือกว้างขวางใหญ่โตมาก มีอาหารให้เลือกทานเยอะมากๆๆๆๆๆ เรียกว่าแทบจะมีอาหารทุกชนิด รูปที่ผมแนบมาให้คุณดูด้วยนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ของจริงเยอะกว่ามากๆ

172

176

179

180

181

183

184

185

188

189

190

193

Zone ขนมและของหวานก็ดีมาก

174

175

178

งานนี้เรียกว่ากิ่นกันเกินอิ่ม

191

192

หลังจากทานอาหารกันแล้วก็ได้เวลาไปสำรวจออนเซนครับเพราะที่โรงแรมแห่งนี้จะมีชื่อเสียงเรื่องออนเซนมาก โดยเฉพาะวิวภูเขาไฟฟูจิ

195
Zone หน้าห้องออนเซน มีมุมพักผ่อน มีน้ำฟรี และมีมุมนวดด้วย

196

197
ทางเข้า
200
จุดเปลี่ยนรองเท้า
201
ตระกร้าใส่ของ
203
มี Locker ให้ใส่ของมีค่า

202

ผมสำรวจกันสักพักก็กลับขึ้นไปส่งคุณแม่กับพี่สาวที่ห้อง ซึ่งปรากฏว่าแม่บ้านแอบมาปูเตียงให้เรียบร้อยแล้ว

204

แต่เนื่องจากผมไปเข้าออนเซนตอนกลางคืนแล้วก็เลยอดเห็นภูเขาไฟฟูจิ ก็เลยตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะกลับมาเข้าออนเซนอีกครั้ง

หลังจากแช่ออนเซนแบบฟินเว่อร์ไปนานโขอยู่เหมือนกัน เพราะผมชอบมาก ก็ได้เวลากลับไปนอนซึ่งเตียงที่นี่นุ่มมาก ผ้านวมก็อุ่นสุดๆ แถบข้างนอกยังมีหิมะตกมาไม่หยุดหย่อน เป็นการนอนที่มีความสุขมากครับ ผมนี่หลับสนิทตั้งแต่หัวถึงหมอนจนเช้าเลย

เช้าวันต่อมา ผมเป็นคนแรกที่ตื่นเพราะตั้งใจจะไปแช่ออนเซนชมภูเขาไฟฟูจิให้ได้ พอเดินไปเปิดผ้าม่านเท่านั้นแหละครับ พีคคคคคเลย

206

เช้าวันนี้หิมะหยุดตกแล้ว แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ก็ยังขาวโพลนไปด้วยหิมะ ที่สำคัญเริ่มมีแดดอ่อนๆส่องมาแล้ว ทำให้จากระเบียงห้องสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจน

208

คือผมไม่ทราบว่าจะเขียนบรรยายให้เห็นความสวยงามนาทีนั้นที่ผมเห็นภูเขาไฟฟูจิท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลนและธรรมชาติที่สวยงาม ณ ตอนนั้นยังไง รู้แค่ว่ามันสวยมาก สวยมากจริงๆครับ

210

211

214

212

215

ผมยืนดูภาพความสวยงามตรงหน้าไปอีกสักพักก็ได้เวลาไปแช่ออนเซนซึ่งด้านในไม่สามารถถ่ายภาพได้ แต่วิวภูเขาไฟฟูจิจากบ่อออนเซน โดยเฉพาะช่วงที่มีหิมะเต็มพื้นลานหินตรงบ่อกับต้นบอนไซสวยๆรอบบ่อ มันเป็นวิวที่โครตจะ Epic เลยครับ อยากให้คุณได้ไปเห็นภาพนั้นจริงๆ

hotel-green-plaza-onsen-view
ต้องลงมาแช่ออนเซนพร้อมชมวิวภูเขาไฟฟูจิชัดๆสักครั้ง

หลังจากอิ่มจากความสวยงามทางตา และฟินกับการแช่ออนเซนแล้ว ผมก็กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้อง แล้วชวนทุกคนลงมาทานอาหารเช้ากัน ซึ่งต้องบอกว่าดีงามอีกแล้ว อาหารเยอะมากๆ หลากหลาย และน่าทานไปหมด

222

234

180

236

237

238

224

227

226

228

229

230

232

231

178

ผมใช้เวลากับมื้อเช้านานทีเดียวเพราะอยากเก็บให้หมด เรียกว่าเผื่ออิ่มไปถึงเที่ยงเลย

240

241

239

หลังจากอิ่มกันแล้วพวกผมก็เดินเที่ยวกันในโรงแรมอีกนิดหน่อย ก่อนจะ check out เพื่อไปเที่ยว Hakone กันอีกรอบ

177

216

219

242
ไม่แน่ใจว่าเป็นโบสถ์ หรือเป็นส่วนของการจัดเลี้ยงของโรงแรม

โดยขากลับ คุณสามารถเช็ครอบของ shuttle bus ที่โรงแรมได้ครับ เพราะรถ shuttle bus นี้จะไปส่งคุณที่สถานีกระเช้า Obako และป้ายรถเมล์ Obakoให้

โดยหากคุณขึ้นกระเช้าจากสถานี Obako สถานีต่อไปที่กระเช้าจะไปจอดคือ Owakudani หรือจุดชมน้ำพุกำมะถันและไข่ดำนั่นเอง

244
รถ shuttle Bus ของโรงแรม
245
สถานีกระเช้า Obako

247

248
รอกระเช้ามาแล้วก็ขึ้นไปได้เลย

จากทั้งหมดที่ผมเขียนเล่าคุณมา ผมคิดว่า โรงแรม Hotel Green Plaza Hakoneเป็นโรงแรมที่น่าประทับใจมากอีกโรงแรมหนึ่ง ถ้าคุณมีโอกาสไปเยือนHakoneผมก็อยากให้คุณลองพิจารณาโรงแรมนี้ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกครับ

อยากให้คุณไปอยู่ตรงนั้นด้วยกัน

Mgastronome

31.8.19

 

โรงแรมในญี่ปุ่น

โตเกียว ( Tokyo)

โรงแรม Dai-Ichi Hotel , Ryogoku , Tokyo , Japan

โรงแรม Tobu Hotel Levant , Tokyo , Japan

โรงแรม APA Asakusa Kuramae, Tokyo , Japan

โรงแรม Centurion Hotel & Spa Ueno Station , Tokyo , Japan

โรงแรม Ueno Touganeya hotel, Tokyo, Japan 

คุมาโมโต้ (Kumamoto)

Review โรงแรม ANA Crowne Plaza Kumamoto New Sky , เมืองคุมาโมโต้ ,ประเทศญี่ปุ่น

อุเรชิโนะ , ซากะ ( Ureshino, Saga)

โรงแรม Yukai Resort Ureshinokan , เมือง Ureshima ,Saga , ประเทศญี่ปุ่น

ฟุกุโอกะ (Fukuoka)

Review โรงแรม Hermana Fukuoka Hotel , Fukuoka, Japan

 

10 thoughts on “โรงแรม Hotel Green Plaza Hakone , Japan

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s