Review เที่ยวออสเตรเลีย :Brisbane – Moreton Island – Gold Coast – Sydney Part 2 : ข้อควรรู้ก่อนเที่ยวออสเตรเลีย และ การขอ VISA ออสเตรเลีย

Review Australia Trip : Brisbane -Moreton Island – Gold Coast – Sydney Part 2 : ข้อควรรู้ก่อนเที่ยวออสเตรเลีย และ การขอ VISA ออสเตรเลีย

 

ถึง…เธอ

จากจดหมายฉบับที่แล้ว ผมได้เขียนมาเกริ่นเป็นการ Intro ถึง Series ใหม่เกี่ยวกับประสบการณ์ท่องเที่ยวในประเทศออสเตรเลียของผมให้คุณอ่าน มาถึงจดหมายฉบับนี้ก่อนที่ผมจะนำคุณไปเที่ยวกับผมจริงๆ ผมอยากจะเขียนมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศออสเตรเลียคร่าวๆ ให้คุณรู้จักประเทศนี้ก่อนที่จะเดินทางกันเสียก่อน

ออสเตรเลีย เป็นประเทศซึ่งประกอบด้วยแผ่นดินหลักของทวีปออสเตรเลีย, เกาะแทสเมเนีย และเกาะอื่น ๆ เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับหกของโลก โดยจะแบ่งเป็นรัฐใหญ่ 6 รัฐและเขตปกครองตนเองอีก 2 รัฐ แต่ละรัฐจะมีเมืองหลวงของตัวเอง  เช่น Sydney เป็นเมืองหลวงของรัฐ New South wales / Brisbane เป็นเมืองหลวงของรัฐ Queensland / Melbourne เป็นเมืองหลวงของรัฐVictoria / Perth เป็นเมืองหลวงของรัฐ Western Australia

oio7o6e6fCeSX46FQ9T-o

แต่ถ้าจะพูดถึงเมืองหลวงจริงๆ ของออสเตรเลียที่เป็นศูนย์กลางการปกครองคือเมือง Canberra คับ ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็น Sydney (ผมเองก็เคยเข้าใจแบบนั้น)

สภาพภูมิอากาศ

2
หาดบอนได ( Bondi Beach)

สภาพอากาศของออสเตรเลียจะแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ โดยมีฤดูกาลต่างๆดังนี้

ฤดูร้อน : เดือนธันวาคม –เดือนกุมภาพันธ์

ฤดูใบไม้ร่วง : เดือนมีนาคม –เดือนพฤษภาคม

ฤดูหนาว  : เดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม

ฤดูใบไม้ผลิ : เดือนกันยายน –เดือนพฤศจิกายน

ดังนั้นก่อนคุณจะไปเที่ยวออสเตรเลียควรจะเช็คสภาพอากาศให้ดีๆ เพราะใน 1 วันอาจจะมีอากาศแปรปรวนได้ง่ายเหมือนกับประเทศอังกฤษที่ผมเคยเขียนมาเล่าให้คุณอ่านแล้วในตอน  ขับรถเที่ยวอังกฤษ สก็อตแลนด์ Part 2 : ข้อควรรู้ก่อนขับรถเที่ยวอังกฤษ

อย่างตอนที่ผมไป Gold Coast ประเทศออสเตรเลีย จากผมที่เช็คภูมิอากาศมาล่วงหน้า อากาศน่าจะอยู่ราวๆ 22– 26  องศาซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆในตอนกลางวัน  แต่กลางคืนอากาศกลับหนาวเหน็บขึ้นมาเฉยๆ  หรือบางวันแดดออกเปรี้ยงๆ  แต่ลมที่พัดมาเย็นมากแบบ jacket บางๆก็เอาไม่อยู่   หรือบางทีฝนก็ตกแบบไม่มีปี่มี่ขลุ่ย

ในกรณีของ Sydney ตอนฝนไม่ตกก็ยังเฉยๆ แต่พอฝนตกนี่อากาศหนาวขึ้นมามากๆเลย ดังนั้นการเที่ยวในออสเตรเลียควรพกร่ม และ jacket ติดตัวไว้จะดีมาก กันได้ทั้งแดด ทั้งลม อ้อ แว่นกันแดดด้วยคับ แดดค่อนข้างแรงเลย

เวลา

ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้าง จึงมีความแตกต่างของเวลาตามมาตรฐานกรีนิช โดยจัดแบ่งออกเป็น 3 โซน ดังนี้

Eastern Standard Time-EST เวลาเร็วกว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง ใช้ในรัฐ New South Wales, Victoria , Tasmania , Queensland และ Canberra

Central Standard Time – CST เวลาเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมงครึ่ง ใช้ในรัฐ South Australia และเขตปกครองNorthern Territory

Western Standard Time – WST เวลาเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง ใช้ในรัฐ Western Australia

นอกจากนั้นออสเตรเลียยังมีระบบ Daylight Saving  ในช่วงฤดูร้อน ประเทศออสเตรเลียจะมีเวลาในช่วงกลางวันยาวนานกว่าในช่วงกลางคืน ดังนั้น ในรัฐ Victoria , New South Wales , South Australia และTasmania จึงมีการปรับเวลาให้เร็วขึ้นจากเดิมอีก 1 ชั่วโมง ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงมีนาคม

ตอนตุลาคมที่ผมไป  เมือง Brisbane กับ Gold Coast เวลาจะเร็วกว่าเมืองไทย 3 ชั่วโมง แต่ตอนที่นั่งเครื่องจาก Gold Coast ไป Sydney ก่อนเครื่องจะลงมีประกาศให้ผู้โดยสารปรับเวลาขึ้นอีก 1 ชั่วโมง  ตอนนั้นก็ หืออออออ  ผมก็รู้สึกงงๆ เพราะสารภาพว่าก่อนไปไม่ได้เช็คมาว่า Sydneyเร็วกว่าเมืองไทยกี่ชั่วโมง นึกว่าเป็นเวลาเดียวกับ Brisbane แต่เค้าบอกให้ปรับก็ปรับคับ ปรับไปแบบงงๆ ตามนั้น  ฮา

6
ทะเลทรายขนาดยักษ์ในเกาะมอร์ตัน

สกุลเงิน

สกุลเงินเป็นดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)  อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา 1 AUD = 25 – 26 บาท (โดยประมาณ)

ข้อมูลอื่นๆ

น้ำประปาในออสเตรเลียทุกแห่งปลอดภัยสามารถดื่มจากก๊อกได้เลย ดังนั้นจะกรอกน้ำใส่ขวดจากโรงแรมไว้ติดตัวก็ได้ เพราะถ้าไปซื้อราคาจะแพงนิดหน่อย ที่สำคัญน้ำที่วางขายก็จะเหมือนในแถบยุโรปคือถ้าไม่เป็นน้ำแร่ (ซึ่งแพง) ก็จะเป็นน้ำอัดแก๊ส ซึ่งคนไทยไม่ชินแน่นอนเพราะเหมือนกินน้ำโซดาดีๆนี่เอง

ไฟฟ้า ออสเตรเลยีใช้กระแสไฟฟ้า 220-240 โวลต์ ***ปลั๊กไฟแบบสามขา  อันนี้ต้องย้ำเลยสำคัญมาก เพราะทุกสถานที่ต้องใช้ปลั๊ก 3 ขาและขาเสียบต้องเป็นแบบเอียงๆ นะคับ

การขอ VISA ออสเตรเลีย

คุณสามารถเลือกยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศออสเตรเลียได้ 2 วิธี คือการยื่นวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ และการยื่นขอ VISA ผ่านศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFSซึ่งเป็นตัวแทนรับยื่น VISAเจ้าเดียวกับประเทศอังกฤษและหลายประเทศ)

แต่ทั้ง 2 วิธีคุณยังคงต้องเดินทางไปศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าเพื่อเก็บข้อมูลชีวภาพ (ภาพถ่ายและลายนิ้วมือ) เพราะตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 ทางสถานทูตออสเตรเลียได้เริ่มเก็บข้อมูลด้านชีวภาพจากผู้ที่ยื่นขอวีซ่า ดังนั้นผู้ที่สมัครขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปประเทศออสเตรเลียทุกคนจะต้องมาติดต่อที่ศูนย์ยื่นวีซ่าออสเตรเลียด้วยตนเองเพื่อสแกนลายนิ้วมือ

กรณียื่นขอ VISA ผ่านระบบออนไลน์

มีขั้นตอนดังนี้

  1. หากคุณยังไม่เคยลงทะเบียน คุณจะต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ขึ้นมาก่อน จากนั้นก็เข้าไปกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลียที่https://online.immi.gov.au/lusc/login
  2. เมื่อคุณสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว จะมีอีเมล์ยืนยันการสมัครให้คลิกไปที่ link อีกครั้งในอีเมลก่อนเริ่มใช้งานจริง
  3. ใน Linkจากอีเมลล์ให้คุณสร้างแบบฟอร์มใหม่ที่เมนู “New application”แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนทีละขั้นด้วยการเลือกและตอบคำถามทั้งหมดอย่างละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ (อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลก่อนยืนยันคำตอบทุกครั้ง)
  4. เมื่อกรอกข้อมูลและตอบคำถามทั้งหมดแล้วระบบจะแจ้งเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการยื่นVISA ให้คุณทราบ โดยคุณจะต้องอัพโหลดเอกสารผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งคุณเอกสารที่คุณจะอัพโหลดต้องมีขนาดไม่เกิน 5MB ต่อไฟล์ และได้สูงสุดจำนวน 60 ไฟล์ โดยหลักฐานที่จะยื่นขอVISA คุณควรจะเตรียมเป็นไฟล์ PDF ไว้ล่วงหน้าดังนี้
  • รูปถ่ายตามที่สถานทูตกำหนด
  • สำเนาหนังสือเดินทาง
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • แผนการเดินทาง / ตั๋วเครื่องบิน / ตั๋วรถไฟ / ใบจองรถเช่า (ถ้ามี)
  • หลักฐานทางการเงิน / บัญชีเงินฝาก
  • หนังสือรับรองการทำงาน / ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน
  • ประวัติการเดินทาง (หนังสือเดินทางฉบับเดิม ตราวีซ่าหรือ ตราเข้าเมืองที่เคยมีทั้งหมด)
  1. เมื่อคุณอัพโหลดเอกสารเข้าสู่ระบบครบถ้วนแล้ว จึงยืนยันการยื่นคำร้องขอวีซ่า
  2. เมื่อคุณยืนยันแล้ว ระบบจะนำคุณเข้าสู่ส่วนของการชำระเงิน โดยคุณสามารถชำระเงินได้ทั้งผ่านบัตรเครดิต (ทุกประเภท) หรือ บัญชี PayPalก็ได้
  3. เมื่อชำระเงินเสร็จสิ้นระบบจะส่งอีเมลล์ยืนยันการยื่นคำร้องขอVISAและอีเมลการเรียกขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจะแนบเอกสารให้คุณไปติดต่อกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าที่ VFS ก็เป็นอันจบขั้นตอนการยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์ครับ

กรณียื่นคำร้องด้วยตนเอง

มีขั้นตอนดังนี้

  1. คุณต้องไปโหลดแบบฟอร์มการขอวีซ่า –ประเภทนักท่องเที่ยว จาก https://www.homeaffairs.gov.au/Pages/PageNotFoundError.aspx?requestUrl=https://www.homeaffairs.gov.au/Forms/Documents/1419pdf
  2. จากนั้นให้กรอกข้อมูลตามความเป็นจริงเป็นภาษาอังกฤษให้ครบถ้วน (คำถามในแบบฟอร์มจะมีภาษาไทยกำกับซึ่งจะช่วนให้คุณสะดวกในการตอบคำถามมากขึ้น)
  3. เตรียมเอกสารประกอบการพิจารณา และเตรียมจองคิวโดยติดต่อกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS)ในขั้นตอนต่อไป

การติดต่อกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าออสเตรเลีย

  1. ในกรณีการยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์ คุณจะได้รับเอกสารอ้างอิงในการเก็บข้อมูลชีวภาพกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS)
  2. ถ้าคุณจะยื่นคำร้องด้วยตัวเองคุณต้องเดินทางมาติดต่อกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าด้วยตนเอง แต่ก่อนไปให้คุณทำการสมัครสมาชิกแล้วจองคิวกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS)ผ่านระบบออนไลน์ที่ vfsglobal.com/GlobalAppointment/Account/RegisteredLogin
  3. เมื่อสมัครและลงชื่อเข้าใช้เสร็จสิ้น ระบบออนไลน์จะมีเมนูนัดหมายวันและเวลาให้คุณ (Schedule Appointment) รวมทั้งเลือกบริการอื่น ๆ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามแต่บริการที่คุณจะเลือกหรือไม่เลือกก็ได้ อาทิเช่น
  • บริการจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์
  • บริการช่วยตรวจสอบเอกสาร
  • บริการนัดหมายนอกเวลาทำการ
  • บริการรับคำร้องขอวีซ่านอกสถานที่
  • บริการยื่นคำร้องขอวีซ่าเร่งด่วน
  1. เมื่อดำเนินการยืนยันการนัดหมายเสร็จสิ้น ระบบออนไลน์จะส่งใบนัดหมายให้ทางอีเมล ซึ่งใบนัดหมายนี้จำเป็นต้องใช้ในการแสดงคิวกับเจ้าหน้าที่ในวันนัดหมาย
  2. การขอ VISAออสเตรเลียทั้งผ่านระบบออนไลน์และยื่นด้วยตัวเอง คุณต้องเดินทางไปศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) ด้วยตนเอง และไม่สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปแทนได้ โดยคุณต้องถึงก่อนเวลานัดหมายอย่างน้อย 15 นาที และหนังสือเดินทางที่ต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 1 หน้า พร้อมเอกสารทั้งหมดที่จำเป็นทั้งฉบับจริงและสำเนาในกรณียื่นด้วยตนเอง ส่วนการยื่นออนไลน์ใช้เพียงใบอ้างอิงจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและใบนัดหมายของศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS)เท่านั้น (คือยังไงก็ต้องไป VFS อยู่ดี)
  3. เมื่อไปถึงให้คุณไปกดบัตรคิว จากนั้นก็รอเรียก เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกแล้วก็นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ จากนั้นก็มานั่งรออีกฝั่งเพื่อรอเรียกไปเก็บข้อมูลทางชีวภาพ
  4. ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS)จะเก็บข้อมูลทางชีวภาพของคุณได้แก่ลายนิ้วมือผ่านระบบดิจิทัล และถ่ายภาพเต็มหน้าของคุณโดยที่ไม่สวมแว่น หรือสิ่งปลกคลุมศีรษะใด ๆ
  5. เมื่อศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS)รับเอกสารและเก็บข้อมูลชีวภาพเสร็จสิ้น การยื่นขอวีซ่าประเทศออสเตรเลียก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วครับ

การรอผลการพิจารณา VISA สามารถเลือกผ่านทางอีเมลล์หรือSMS ก็ได้ซึ่งโดยปกติแล้วคุณจะทราบผลได้ภายใน 15 วันทำการนับตั้งแต่วันยื่นเอกสาร และคุณสามารถไปรับเอกสารและหนังสือเดินทางคืนหลังรับทราบผลแล้วได้ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า หรือบริการจัดส่งทางไปรษณีย์โดยต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่าออสเตรเลีย

หากคุณไปยื่น VISA ด้วยตนเอง คุณต้องเตรียมเอกสารไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ในวันที่ขอยื่น VISA แต่สำหรับคนที่ยื่นขอวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ คุณไม่จำเป็นต้องเตรียมเอกสารประกอบการพิจารณาไปยื่นอีก คุณเพียงเดินทางไปศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) พร้อมหนังสือเดินทางเท่านั้น (เพราะคุณได้อัพโหลดเอกสารไปหมดแล้ว ตามที่ผมอธิบายวิธีการไว้ข้างต้น)

สำหรับเอกสารในการยื่นขอ VISA ออสเตรเลียจะประกอบไปด้วย

  1. เอกสารคำร้องขอ –แบบฟอร์มการขอวีซ่าผู้มาเยือน ประเภทนักท่องเที่ยว ที่คุณกรอกข้อมูลและลงชื่อเรียบร้อยแล้ว
  2. ใบนัดหมาย –เพื่อใช้ติดต่อนัดหมายหรือแจ้งความประสงค์ใช้บริการเพิ่มเติมกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS)
  3. หนังสือเดินทาง –ต้องเป็นหนังสือเดินทางฉบับล่าสุด มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างอย่างน้อย 1 หน้า กรณีที่มีหนังสือเดินทางเล่มก่อนหน้าให้นำไปด้วยทั้งหมด และถ่ายสำเนาหน้าแรกพร้อมกับหน้าที่เคยได้วีซ่า/เดินทางไปประเทศอื่นด้วย
  4. เอกสารแสดงตัว พร้อมสำเนา ได้แก่ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และเอกสารสำคัญอื่น ๆ ถ้ามี อาทิเช่น ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล เป็นต้น (พร้อมสำเนาเอกสาร)
  5. รูปถ่ายหน้าตรง –ต้องใช้รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2 นิ้ว (45x 35 มม.) จำนวน 2 ใบ โดยไม่ยิ้ม และไม่มีเส้นผมหรืออุปกรณ์ใด ๆ บดบังใบหน้าและดวงตา โดยต้องเป็นรูปที่ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน
  6. ใบยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน –ต้องเป็นตั๋วเครื่องบินที่เดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศออสเตรเลีย และเดินทางกลับถึงประเทศไทยภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น ค้นหาและจองตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลีย
  7. ใบยืนยันการจองโรงแรมที่พัก –ต้องเป็นโรงแรมภายในประเทศออสเตรเลีย และมีการเข้าพักในช่วงเวลาท่องเที่ยวที่ระบุไว้เท่านั้น ค้นหาและจองโรงแรมที่พักในออสเตรเลีย
  8. เอกสารรับรองการทำงาน
  • กรณีเป็นพนักงาน: ต้องใช้หนังสือรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ โดยต้องมีข้อมูลชื่อองค์กรที่ทำงาน ตำแหน่งงาน เงินเดือน วันเริ่มงาน และควรมีการระบุจุดหมายปลายทาง ช่วงวันเดินทาง และวันที่จะกลับถึงประเทศไทยอย่างชัดเจน พร้อมลงนามและประทับตรา
  • กรณีเป็นเจ้าของกิจการ: ต้องใช้สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน พร้อมทะเบียนการค้า หรือใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ และเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและมีชื่อของคุณเป็นเจ้าของกิจการ
  1. รายการเดินบัญชีเงินฝาก –สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากที่มีอายุมากกว่า 1 ปี และปรับรายการเดินบัญชีถึงปัจจุบันถึงย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หรือขอรายการเดินบัญชีที่ได้รับตราประทับจากธนาคาร หรือขอเอกสารแสดงข้อมูลทางบัญชีที่การันตีเงินฝากของคุณเป็นภาษาอังกฤษก็ได้ โดยควรมีเงินในบัญชีเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีทุนทรัพย์เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวออสเตรเลีย
  2. สลิปเงินเดือน –กรณีมีรายได้ประจำ ให้แนบสลิปย้อนหลัง 6 เดือน โดยยอดเงินสุทธิในสลิปจะต้องสอดคล้องกับรายการเดินบัญชีเงินฝากด้วย และควรมีรายได้เกิน 15,000 บาทขึ้นไป
  3. กรณีไม่มีรายได้เป็นของตนเอง
  • หลักฐานแสดงรายได้ของคู่สมรส– กรณีเป็นคู่สมรสที่มีการจดทะเบียนกันอย่างถูกต้อง และต้องมีสำเนาเอกสารยืนยัน และถ้าคู่สมรสไม่ได้เดินทางไปด้วย ต้องมีสำเนาเอกสารแสดงตัวของคู่สมรสทั้งหมดแนบมาด้วย หรือถ้าไม่ได้จดทะเบียน ต้องมีหนังสือยืนยันการสมรสโดยไม่ได้จดทะเบียนและลงชื่อรับรองทั้ง 2 ฝ่าย
  • หลักฐานแสดงรายได้ของญาติ– กรณีเดินทางกับญาติพี่น้องสามารถใช้ข้อมูลของญาติที่ร่วมเดินทางไปด้วยพร้อมหนังสือรับรองความเป็นญาติ หรือถ้าญาติเป็นเจ้าของกิจการหรือบุคคลที่รายได้แต่ไม่ได้เดินทางไปด้วย ก็สามารถใช้อ้างอิงแทนกันได้เมื่อมีหลักฐานด้านความสัมพันธ์เพียงพอ (อาทิเช่นนามสกุลเดียวกัน)
  • จดหมายยินยอมจากผู้ปกครอง– กรณีผู้เดินทางเป็นเด็กอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ และไม่ได้เดินทางพร้อมบิดามารดาร่วมกัน ผู้ปกครองที่เป็นบิดาหรือมารดาที่ไม่ได้ร่วมไปด้วยทั้งหมดต้องลงชื่อในจดหมายยินยอมที่ออกโดยที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต
  • เอกสารรับรองการศึกษาหรือสมาคมกีฬา– กรณีเป็นนักเรียน/นักศึกษา หรืออยู่ในสมาคมกีฬา ต้องใช้หนังสือรับรองจากสถานศึกษาหรือสมาคมกีฬาที่สังกัดอยู่เป็นภาษาอังกฤษ
  1. แผนการเดินทางภาษาอังกฤษที่แสดงให้เห็นว่าแต่ละวันคุณจะเดินทางไปเที่ยวเมืองอะไร สถานที่ท่องเที่ยวไหน พักที่ใดบ้าง
  2. จดหมายแนะนำตัว –เขียนแนะนำตัวกับทางสถานทูตเป็นภาษาอังกฤษถึงจุดประสงค์ของการเดินทางหรือเรื่องราวคร่าว ๆ เกี่ยวกับความต้องการท่องเที่ยวออสเตรเลียในครั้งนี้ ซึ่งรวมทั้งวันเวลาเดินทาง และข้อมูลการทำงานที่ช่วยยืนยันว่าคุณจะต้องกลับประเทศไทยด้วย
  3. ใบปะหน้า –กรณียื่นขอวีซ่าด้วยตนเอง ต้องมีใบปะหน้าที่ระบุถึงรายละเอียดเอกสารทั้งหมดที่รวบรวมมาเพื่อประกอบการพิจารณา
  4. โฉนดที่ดิน/สัญญาเช่า/สัญญากู้บ้าน– เป็นเอกสารประกอบเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้ที่มีภาระผูกพันกับฐานที่อยู่ในประเทศไทย

ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าออสเตรเลีย

สำหรับค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าประเทศออสเตรเลียท่องเที่ยว ปัจจุบันเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 140 ดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อชำระผ่านระบบออนไลน์ หรือ 3,550 บาทเมื่อชำระเป็นเงินไทยกับศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) ทั้งนี้ทางศูนย์บริการมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมต่างหากสำหรับผู้ยื่นขอวีซ่า รายละเอียดดังนี้

สำหรับผู้ยื่นคำร้องขอขอวีซ่าด้วยตนเองพร้อมบันทึกข้อมูลชีวภาพ ค่าธรรมเนียม 896 บาท

สำหรับผู้บันทึกข้อมูลชีวภาพเท่านั้น (ยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์) ค่าธรรมเนียม 851 บาท

สำหรับการยื่นเอกสารเพิ่มเติม (ที่สถานทูตยังไม่ได้ร้องขอเพิ่ม) ค่าธรรมเนียม 627 บาท

สถานที่ยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย

เดอะ-เทรนดี้-คอนโดมิเนียม-วัฒนา-Thailand
อาคาร The Trendy

คุณสามารถติดต่อยื่นคำร้องและบันทึกข้อมูลชีวภาพที่ได้ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VFS) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

กรุงเทพฯ

อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 28 ซอยสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ 08.30– 16.30 น.

นอกเวลาทำการ: เสาร์ 08.30– 12.00 น. (มีค่าบริการเพิ่มเติม)

เวลารับหนังสือเดินทาง: จันทร์ – ศุกร์ 13.30– 16.00 น.

เชียงใหม่

อาคารเชียงใหม่ศิริพานิช 191 ชั้น 6 ถ.ห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200

เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ 08.30– 14.30 น.

นอกเวลาทำการ: เสาร์ 09.00– 12.00 น. (มีค่าบริการเพิ่มเติม)

เวลารับหนังสือเดินทาง: จันทร์ – ศุกร์ 14.30– 15.30 น.

ปล เรื่องสำคัญที่ผมมักจะย้ำเตือนเสมอเกี่ยวกับการขอ VISA คือรายละเอียดการขอ VISA ของทุกประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจผมแนะนำให้คุณพยายามเช็คข้อมูลจากสถานทูตหรือศูนย์รับคำร้องขอ VISA ของแต่ละประเทศเสมอ โดยข้อมูลล่าสุดในการขอวีซ่าประเทศออสเตรเลีย สามารถตรวจสอบได้ที่ http://www.vfsglobal.com

โดยปกติ ผมไม่แน่ใจว่า Visaออสเตรเลียจะให้ระยะเวลาเท่าไหร่ แต่เพื่อนที่ไปของ VISAด้วยกันเท่าที่ถามๆดูทุกคนได้แบบ multipleคือสามารถเดินทางเข้าออกออสเตรเลียกี่ครั้งก็ได้ในระยะเวลา 1 ปีหมดเลยครับ

ที่สำคัญ Visa ออสเตรเลียจะไม่มีการพิมพ์ Visa ลงไปในpassport นะคับเพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจถ้าเราจะได้passport คืนตั้งแต่วันที่ยื่นขอVisa เลย

เอกสาร Visa จะออกมาเป็นใบรับรองเหมือนจดหมายในกระดาษ A4 ที่จะมีรายละเอียดต่างๆครบถ้วน ปกติเวลาเข้าประเทศเราก็แค่ยื่น passportข้อมูลของเราก็จะมีอยู่ในระบบอยู่แล้ว ถ้ากลัวทำหาย ผมแนะนำให้เข้าเว็บ

https://www.homeaffairs.gov.au/busi/visas-and-migration/visa-entitlement-verification-online-(vevo)

เมื่อเข้าไปแล้วให้ใส่หมายเลข reference  ใน VISA ของเราเพื่อขอไฟล์มาทางอีเมล หรือ save ไฟล์แบบ  pdf  เก็บไว้ก็ได้ จากนั้นค่อยมา Print เก็บไว้หลายๆที่เพื่อความสบายใจก็ได้ครับ

หวังว่าข้อมูลทั้งเกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย และข้อมูลการขอ VISA จะเป็นประโยชน์กับคุณนะครับ แล้วจดหมายฉบับหน้าผมจะเริ่มต้นนำคุณเดินทางผ่านตัวอักษรไปด้วยกันโดยเริ่มต้นที่เมืองบริสเบน

16
เมืองบริสเบน

รอติดตามนะครับ

อยากให้คุณไปอยู่ตรงนั้นด้วยกัน

รักและคิดถึง

Mgastronome

One thought on “Review เที่ยวออสเตรเลีย :Brisbane – Moreton Island – Gold Coast – Sydney Part 2 : ข้อควรรู้ก่อนเที่ยวออสเตรเลีย และ การขอ VISA ออสเตรเลีย

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s