Review เที่ยวออสเตรเลีย : Brisbane – Moreton Island – Gold Coast – Sydney Part 6 : Day 4 Gold Coast Currumbin Wildlife Sanctuary

ถึง…เธอ

จดหมายฉบับนี้ผมเขียนถึงคุณด้วยความรู้สึกหดหู่ไปด้วยจากข่าวไฟไหม้ป่าในประเทศออสเตรเลียซึ่งส่งผลต่อทั้งผู้คน พืชพรรณและสัตว์ป่า โดยเฉพาะข่าวที่ว่าไฟไหม้ป่าในครั้งนี้อาจส่งผลให้มีหมีโคอาล่าตายไปถึงมากกว่า 2000 ตัว

ที่ผมต้องเอาข่าวที่น่าเศร้านี้มาเขียนถึงก่อนเพราะในวันนี้ผมจะเขียนมาเล่าถึงกิจกรรมในวันที่4 ในทริปออสเตรเลียของผมซึ่งเป็นวันที่ผมได้ไปที่ Gold Coast Currumbin Wildlife Sanctuary    ซึ่งเป็นสถานที่ๆคุณสามารถไปพบกับหมีโคอาล่าได้แบบใกล้ชิด ซึ่งหลังจากได้เห็นตัวจริง ตัวเป็นๆของหมีโคอาล่าแล้ว ผมต้องบอกเลยว่ามันเป็นสัตว์โลกที่น่ารักที่สุดสปีชีย์หนึ่งของโลกเลยทีเดียว

Currumbin Wildlife Sactuary

เป็นทั้งสวนสัตว์และสถานพยาบาลสัตว์ ที่มีสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลียมากมาย ทั้งหมีโคอาล่า จิงโจ้ นกกระจอกเทศ แทสมาเนี่ยนอิวิล วอมแบท นกอีมู รวมทั้งจะมีการแสดงโชว์ของสัตว์และพืชพรรณต่างๆให้ชมมากมาย จะเปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00-17.00 โดยมีค่าเข้า 49 เหรียญ

หลังจากผ่านประตูเข้ามาแล้ว พวกผมก็เดินตรงเข้าไปหา Highlightของสวนสัตว์แห่งนี้เลยนั่นคือเหล่าบรรดาหมีน้อยโคอาล่าที่น่ารัก

เมื่อไปถึงต้องยอมรับว่าเจ้าสัตว์โลกชนิดนี้น่ารักมากจริงๆแม้จะเห็นแค่ด้านหลัง เป็นส่วนใหญ่เพราะไม่มีตัวไหนเงยหน้าขึ้นมาสบตาผู้คนเลย และทุกตัวกำลังenjoy กับการนอนด้วยการซุกหน้านอนกอดกับต้นไม้มากๆ เรียกว่านอนเอาจริงเอาจัง นอนไม่สนใครหรือสิ่งรอบตัวใดๆทั้งสิ้น

นอนกันจริงจังมาก

สาเหตุที่หมีโคอาล่าทุกตัวต่างนอนหลับกันหมดไม่ใช่เพราะเป็นเวลานอนของมัน แต่หมีโคอาล่าเป็นสัตว์ที่ขี้เซามากๆ มันจะนอนวันละ 18-20 ชั่วโมง เผื่อไว้ 4 ชั่วโมงมากินกับเข้าห้องน้ำมั้ง

ดังนั้นถ้าคุณไปเจอมันที่ไหนก็เชื่อได้เลยว่าจะไปมันเจอมันนอนอยู่แน่นอน แต่สำหรับสวนสัตว์แห่งนี้มีความพิเศษมากๆ อย่างหนึ่ง นั่นคือ Gold coast เป็นเมืองเดียวที่จะอนุญาตให้คุณสัมผัสกับหมีโคอาล่าโดยสามารถเอามาอุ้มได้

ที่สวนสัตว์แห่งนี้อนุญาตให้คุณสามารถถ่ายรูปคู่กับหมีโคอาล่าได้ โดยคิดค่าใช้จ่าย 23 เหรียญ  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะไปแงะ (ต้องใช้คำนี้จริงๆ) น้องหมีของเราออกมาจากต้นไม้เพื่อมาถ่ายรูปคู่กับคุณ  ดูเป็นการทารุณกรรมสัตว์รูปแบบนึงยังไงไม่รู้ครับ เพราะนึกถึงตัวเองเวลาใครมาแงะออกจากที่นอนนี่มันทรมานสุดๆ 555

ที่นี่มีสัตว์พื้นถิ่นหลายชนิดนะคับ เช่น สุนัขพันธุ์ Australian dingo  ดูแล้วถ้าหลุดมาเมืองไทยอาจจะแยกไม่ออก ฮา

ตัวนี้ก็ชื่อเสียงโด่งดังคับ ทัสมาเนียเดวิล

ในสวนสัตว์มีโชว์หลายๆอย่างด้วย แต่ที่นิยมคือการโชว์ตัดขนแกะคับ

ถ้าคุณเดินไปเรื่อยๆ จะเจอพื้นที่กรงของ นกกระจอกเทศ และ  จิงโจ้ ขังไว้ที่เดียวกัน เป็นกรงแบบเปิด มีรั้วแค่เตี้ยๆ ให้นักเที่ยวลงไปเดินเล่นคลุกคลีกับสัตว์แบบใกล้ชิดมากๆได้เลย

นักท่องเที่ยวสามารถลงไปคลุกคลีกับสัตว์ได้เลย

สวนสัตว์แห่งนี้ถือว่ามีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ซึ่งภายในสวนสัตว์จะมีรถไฟที่จะไปจอดแวะตามจุดต่างๆด้วย แต่ผมไม่ได้ใช้บริการเพราะคนนั่งเต็มตลอด

นอกจากนั้นยังมี Zone แบ่งตามประเภทของสัตว์ต่างๆเช่น สัตว์เลื้อยคลาน zone ของพวกจระเข้ และอีกมากมายให้เดินชมครับ

ผมใช้เวลาที่สวนสัตว์ประมาณครึ่งวัน  และก็ทานอาหารเที่ยงกันที่ร้านอาหาร Sanctuary Cafe บริเวณจุดซื้อตั๋วเลยซึ่งเป็นลักษระบุฟเฟย์ โดยอาหารนั้นก็เรียกว่ากินพอประทังชีวิตครับ ฮา ไม่ได้อร่อยอะไรมากมาย

ช่วงบ่ายก็ได้เวลาไปช็อปปิ้งกันครับที่ Harbor town outlet เนื่องจากตั้งแต่มาวันแรกยังไม่มีโปรแกรม Shopping แบบจริงจังเลย

ผมว่า outlet ที่นี่ถือว่าโอเคเลยคับ ทั้งความหลากหลายของสินค้า และราคาก็น่าคบด้วย เรียกว่าลดได้รู้สึกว่าลดจนถูกเลย แถมสินค้าก็มีหลากหลาย หลายระดับให้เลือกซื้อ นอกจากนั้นยังมี Super Marketด้วย

ช็อปกันจนเหนื่อยก็ได้เวลาไปทานมื้อเย็นกันคับ และตามธรรมเนียมมื้อสุดท้าย บริษัททัวร์มักจะพาเราไปทานอาหารไทย ซึ่งวันนี้จะเป็นร้านที่อยู่ตึก Aqua ทำเลตรงนี้ดีมากคับ เพรอยู่ติดทะเล มีท่าเรือที่ทำให้เห็นตัวเมืองไกลๆด้วย เป็นวิวที่สวยมาก

มื้อนี้ผมก็ได้ทานอาหารไทยพอหายคิดถึงคับ แต่ถ้าพูดถึงรสชาติก็คงเป็นเรื่องที่รสชาติอาหารไทยในต่างแดนยังไงก็คงไม่เหมือนในบ้านเราคับ

วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายในทริปทัวร์ Brisbane – Moreton Island – Gold Coast แต่สำหรับผมยังไม่จบแค่นี้ครับเพราะอย่างที่ผมเกริ่นไว้ตั้งแต่ Review เที่ยวออสเตรเลีย :Brisbane – Moreton Island – Gold Coast – Sydney Part 1 : Intro ว่าในทริปนี้หลังจากจบโปรแกรมทัวร์ ผมจะเที่ยวต่อด้วยตัวเองด้วยการเดินทางไป Sydney ซึ่งผมจะเขียนมาเล่าให้คุณอ่านต่อในจดหมายฉบับหน้านะครับ

รอติดตามอ่านนะครับ

อยากให้คุณไปอยู่ตรงนั้นด้วยกัน

รักและคิดถึง

Mgastronome