ถึง…เธอ
หลังจากจดหมายฉบับที่แล้ว ผมเขียนมาแนะนำโรงแรม Review โรงแรม The Grand Morocco, เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงแรมที่สวยมากๆ เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปแบบคุณที่สุด
มาถึงจดหมายฉบับนี้ผมก็อยากจะเขียนมาแนะนำโรงแรมอีกโรงแรมที่เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปแล้วยังรักธรรมชาติแบบคุณเช่นกัน นั่นคือ…ภูใจใส เมาน์เท่น รีสอร์ต (Phu Chaisai Mountain Resort) จังหวัดเชียงราย
สำหรับรีสอร์ตแห่งนี้ผมไปพักในระหว่างทริปเที่ยวเชียงใหม่ เชียงรายเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมาที่ผมเขียนมาเล่าให้คุณอ่านแล้วในตอน Review ทริปเที่ยววัด ชมดอกไม้ เชียงราย เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน Part 1 : Day 1
จุดเด่นของรีสอร์ตแห่งนี้คือเป็นรีสอร์ตที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บนภูเขาสูง ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้โอบล้อมอยู่ภายในธรรมชาติที่สวยงาม ยิ่งถ้าไปหน้าหนาวจะมีอากาศที่หนาวเย็นสบายเป็นที่สุดครับ
นอกจากนั้นรีสอร์ทแห่งนี้ยังอยู่ใกล้กับไร่ชาฉุยฟงมาก น่าจะประมาณ 15 นาที
การเดินทางไป ภูใจใส เมาน์เท่น รีสอร์ต นั้นทางที่สะดวกที่รถคือการใช้รถส่วนตัวหรือรถเช่าเหมาเข้าไปครับ เพราะตัวรีสอร์ตอยู่บนภูเขา ไม่มีรถสาธารณะผ่าน แต่ถ้าคุณไม่สะดวก ทางรีสอร์ตจะมีบริการรถรับส่งจากสนามบินซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายนะครับ
ผมไปถึงรีสอร์ตแห่งนี้ตอนเย็นๆ ก็รู้สึกได้ตั้งแต่ทางขึ้นล่ะครับว่าเป็นทางขึ้นไปบนภูเขาค่อนข้างสูงทีเดียว เพราะฉะนั้น ผมแนะนำอย่างยิ่งให้คุณซื้อสิ่งของ อาหารเครื่องดื่มที่ต้องการไปล่วงหน้า โดยเฉพาะน้ำดื่มครับเพราะราคาน้ำของโรงแรมค่อนข้างแรงเลยทีเดียว ( ขวดละ 50 บาท )
เมื่อไปถึงจะไม่มีลานจอดรถเป็นลานกว้างมากนะครับ ต้องจอดระหว่างทางขึ้นซึ่งเมื่อมาถึงทางเข้ารีสอร์ตก็จะเจอกับอาหารของ Lobby เป็นอาคารบ้านดินขนาดเล็กซึ่งเสน่ห์สำคัญที่ผมชอบมากๆของรีสอร์ตแห่งนี้คือการปลูกต้นไม้ไว้บนหลังคาของตัวอาคาร ให้ทั้งความรู้สวย แปลกตาและเป็นธรรมชาติมากครับ

บริเวณใกล้ๆกับ Lobby จะมีทางเดินไปสปาของรีสอร์ตด้วย ใครสนใจก็ไปใช้บริการได้

หลังจาก check in แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่นำไปยังห้องพักซึ่งมีหลายแบบมากครับ แต่จุดเด่นคือแต่ละห้องจะมีระเบียงที่ให้เราไปนั่งชื่นชมธรรมชาติได้ เรียกว่าไม่มีตัวอาคารมาบังกันเลย
ทางเดินไปส่วนของห้องพักก็ทำได้สวย เก๋และยังคง conceptความเป็นธรรมชาติได้ดีมากครับ โดยห้องพักของผมจะเดินผ่านส่วนของห้องพักและร้านอาหารไป
เมื่อไปถึงห้อง การตกแต่งจะเน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลักครับ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในกระท่อมระดับ 5 ดาว 555
ในห้องจะมีทั้งส่วนของที่นั่งพักผ่อน โต๊ะทำงาน ห้องนอน และระเบียง
ส่วนของห้องน้ำจะรวมกับห้องแต่งตัวครับ
ส่วนของระเบียงก็อย่างที่ผมครับว่าเป็นระเบียงที่หันเข้าหาวิวธรรมชาติเลย ไม่มีอะไรมาบัง

อ้อ ต้องเตือนไว้อีกเรื่องเผื่อคุณไม่ชอบห้องแนวนี้ คือในห้องไฟจะไม่ได้สว่างมากนะครับ ส่วนตัวผมถือว่าค่อนข้างมืดเลยล่ะ แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนที่ผมบอกนะครับว่าเหมือนอยู่ในกระท่อง แสงจึงน้อยๆเหมือนเราจุดเทียนให้แสงสว่างทั้งๆที่ความจริง แสงก็มาจากไฟฟ้านี่ล่ะ แต่ก็นั่นล่ะครับ มันเป็น Feelingggggg 555
หลังจากสำรวจห้องแล้ว ผมก็เดินลงไปด้านล่างอีกนิดเพื่อไปสำรวจสระว่ายน้ำของรีสอร์ต ซึ่งก็สวยอีกแล้วครับ
เป็นสระว่ายน้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติ ว่ายไป ชมวิว น่ารื่นรมย์มากครับ แต่ผมไม่ได้ว่ายนะครับ เพราะตอนไปถึงค่อนข้างมืดแล้ว มาว่ายน้ำกลางป่าแบบนี้ท่ามกลางความมืดก็ไม่ค่อยไหวเหมือนกัน
หลังจากสำรวจเสร็จแล้ว ผมก็เดินกลับไปทางเดิมเพื่อไปทานอาหารมื้อเย็นในห้องอาหารกลางของรีสอร์ตซึ่งเป็นพื้นที่ๆผมชอบมากที่สุดของรีสอร์ตแห่งนี้
พื้นส่วนทานอาหารของรีสอร์ตตกแต่งสวยเลยครับ มีต้นไม้ ดอกไม้แบบแน่นๆ แต่ดูไม่รก และผมก็ยังชอบการปลูกต้นไม้ไว้บนหลัวคาและมุมต่างๆของตัวอาคารจนเหมือนถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ เป็นภาพที่สวยมากครับ

ในส่วนของอาหารเย็น ผมไม่ค่อยถูกใจนัก ดังนั้นผมจึงแนะนำว่าไปหาร้านอร่อยๆ ทานก่อนเข้ามารีสอร์ต หรือไม่ก็เข้ามารีสอร์ตเร็วหน่อยแล้วยอมขับออกไปหาร้านดีๆ ทานข้างนอกน่าจะดีกว่านะครับ แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียสเรื่องรสชาติอาหารมาก ไม่อยากขับรถไปมาก็ทานได้นะครับ ไม่ถึงขนาดทานไม่ได้เลย แค่รสชาติไม่ค่อยถูกปากผมเท่าไหร่ ส่วนราคาไม่ต้องพูดถึงคับ แพงตามมารตฐานโรงแรมระดับนี้ทั่วไป

จริงๆที่รีสอร์ตมีคลาสสอนทำอาหารด้วย แต่น่าจะเหมาะสำหรับแขกต่างชาติมากกว่า
กลางคืนของที่นี่ดูโรแมนติกมากนะครับ แม้จะมืดไปหน่อย แต่ผมค่อนข้างชอบ
คืนนั้นผมกลับไปนอนแบบหลับสบายเลยครับเพราะอากาศเย็นสบาย มีเสียงแมลงในธรรมชาติบ้าง ให้ความรู้สึกว่านอนอยู่กลางป่า กลางธรรมชาติจริงๆ
ในตอนเช้า หลังตื่นนอน ผมออกมาชมวิวที่ระเบียงนิดหน่อย แล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทานมื้อเช้า เพราะวันนี้ผมต้องรีบตีไปเชียงใหม่ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมงเหมือนกัน
ในระหว่างเดินไปห้องอาหารก็จะมีทางขึ้นไปชมวิวหลายจุดครับ ให้ภาพกว้างแบบ Panorama ที่สวยเลย
พอมาถึงห้องอาหาร มาเห็นสีสันในตอนเช้าอีกครั้งก็ต้องยอมรับเลยครับว่า zone นี้ออกแบบได้สวย ได้เป็นธรรมชาติ ทำให้ผมประทับใจมากจริงๆ
เมื่อคืนผมไม่ค่อยประทับใจอาหารเย็น แต่สำหรับมื้อเช้าของที่นี่ถือว่าดีเลยครับ ทั้งเรื่องของวิวทิวทัศน์ในพื้นที่ของส่วนทานอาหารที่ทำให้เราเห็นวิวสวยๆได้ตลอด
ส่วนอาหารก็มีความหลากหลาย และดูสด ดูเป็นธรรมชาติมากๆ แม้กระทั่งขนมปังยังใช้เตาถ่านในการปิ้ง ชอบไอเดียแบบนี้จังเลยครับ
มื้อเช้าวันนี้ผมทานแบบเต็มอิ่มเลย
สำหรับภูใจใส เมาน์เท่น รีสอร์ต (Phu Chaisai Mountain Resort) จังหวัดเชียงราย ก็เป็นที่พักอีกที่นะครับที่ผมอยากจะแนะนำให้คุณลองไปพักดู โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นชอบที่พักแบบธรรมชาติมากๆ รับรองที่นี่น่าจะถูกใจคุณแน่นอน
อยากให้คุณไปอยู่ตรงนั้นด้วยกัน
รักและคิดถึง
Mgastronome
One thought on “Review ภูใจใส เมาน์เท่น รีสอร์ต (Phu Chaisai Mountain Resort) จังหวัดเชียงราย”