Review ทริปเที่ยววัด ชมดอกไม้ เชียงราย เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน Part 2 : Day 2

ถึง…เธอ

จดหมายฉบับนี้จะเป็นฉบับที่สองแล้วที่ผมเขียนมาเล่าถึงประสบการณ์ไทยเที่ยวไทย ซึ่งเป็นทริปเที่ยววัด ชมดอกไม้ เชียงราย เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน 

สำหรับเมื่อคืนผมนอนหลับสนิทเลย เพราะอากาศเย็นสบายมาก แถมมีเสียงหรีดริ่งเรไรในป่าร้องระงมขับกล่อมเป็นระยะๆให้ความรู้สึกเหมือนนอนท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ที่ Review ภูใจใส เมาน์เท่น รีสอร์ต (Phu Chaisai Mountain Resort) จังหวัดเชียงราย

แต่…

แม่ของผมมาบอกว่าท่านนอนไม่ค่อยหลับ เพราะรู้สึกตรงกันข้าม ความเป็นธรรมชาติแบบนี้เหมือนนอนกลางป่า รู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งมุมมองแบบนี้ผมไม่ทันคิดมาก่อนเลยว่าสภาพแวดล้อมแบบธรรมชาติแบบนี้จะทำให้บางคนรู้สึกแบบนี้ได้เหมือนกัน

หลังจากอาบน้ำ แต่งตัวกันแล้ว พวกผมก็ออกไปทานมื้อเช้ากัน ซึ่ง Zone อาหารเช้าของที่นี่ก็เป็น Highlight สำคัญเหมือนกันเพราะเป็นพื้นที่เปิดโล่งทำให้เรานั่งทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติ เกือบจะ 360 องศา 

ก่อนจะไปทานมื้อเช้ากัน ผมก็แวะถ่ายรูปมุมสวยๆของรีสอร์ทแห่งนี้ก่อนซึ่งถ่ายไปถ่ายมาก็กินเวลาพอสมควรเหมือนกันเพราะมีมุมสวยๆเยอะพอสมควร

ผมได้เล่าไปในตอนที่แล้วว่าผมไม่ค่อยประทับใจอาหารมื้อเย็นของที่รีสอร์ทเท่าไหร่ แต่อาหารมื้อเช้าของที่นี่ดีเยี่ยมเลยครับ

อาหารต่างๆ ดูสด อร่อย และมีหลากหลายพอสมควรเลย ยิ่งมานั่งทานแบบชมวิวไปด้วยพวกผมก็ยิ่งเจริญอาหารกันมากๆเลย เลยจัดกันไปซะเต็มที่

หลังจากทานมื้อเช้าอิ่ม พวกผมก็ check out กันเลย เพราะวันนี้เราต้องตีรถไปเชียงใหม่ซึ่งต้องใช้เวลา 4 ชั่วโมง ยิ่งช่วงนี้ก็ยิ่งใช้เวลามากขึ้นเพราะกำลังมีการก่อสร้างและปรับปรุงถนนกันอยู่

แต่ก่อนไป พวกผมก็ไปแวะที่ไร่ชาฉุยฟงกันก่อน ซึ่งไร่ฉาแห่งนี้อยู่ห่างกับรีสอร์ทแค่ประมาณ10 – 15 นาทีเท่านั้น

ไร่ชาฉุยฟง

เป็นไร่ชาเก่าแก่มีพื้นที่กว่า 500 ไร่ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง กว่า 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติและทิวเขาที่สวยงาม ตั้งอยู่ในอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย  

ไร่ชาแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากๆ เนื่องจากมีวิวต้นชาที่ปลูกลดหลั่นกันเป็นขั้นบันไดบนภูเขาสูง ทำให้ได้ภาพวิวที่สวยมากๆ แถมยังมีละครหลายเรื่องที่มาใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำด้วย ยิ่งทำให้ไร่ชาแห่งนี้มีชื่อเสียงมากไปอีก

นอกจากวิวของต้นชาแล้ว ไร่ชาแห่งนี้ยังมีร้านชา “ฉุยฟง ที คาเฟ่” ที่เป็นอาคารแบบเปิดโล่ง โดยด้านบนจะเป็นลานกว้าง สำหรับถ่ายรูปและชมวิวสวยๆ 

ส่วนด้านล่างจะให้บริการเครื่องดื่มชาหลากหลายแบบ และของหวานอย่าง ไอศกรีม และเบอเกอรี่ ให้คุณสามารถนั่งจิบชาและชมวิวแบบอลังการไปด้วยได้

และถ้าอยากจะซื้อชาดีๆ กลับไปดื่มหรือเป็นของฝาก ติดกับร้านชาที่นี่ก็มีร้านจำหน่ายใบชาให้เลือกซื้อหลายแบบ หลายคุณภาพเลยครับ

ชิมกันก่อนซื้อได้

หลังจากชิมชาอร่อยๆกับดื่มด่ำวิวของไร่ชาแล้ว พวกผมก็ตีรถไปเชียงใหม่กันเลย โดยจุดแรกที่พวกผมแวะเมื่อถึงเชียงใหม่ก็คือวัดพระสิงห์ ตาม conceptเที่ยววัด ชมดอกไม้ ในทริปนี้

วัดพระสิงห์

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เดิมชื่อ ‘วัดลีเชียงพระ’ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ตลาดกลางเมือง คำว่า ลี เป็นภาษาล้านนา แปลว่า ตลาด 

วัดพระสิงห์เป็นพระอารามหลวงของเชียงใหม่ มา 700 ปีเศษ ตามประวัติ พญาผายูกษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์มังรายโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ขึ้น ในพ.ศ. 1888 เพื่อเป็นที่ประทับของพระมหาอัคญะจุฬเถระที่ทรงอาราธนาจากเมืองหริภุญไชยพร้อมทั้งได้ทรงสร้างพระเจดีย์สูง 24 ศอก เพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดาด้วย

ส่วนชื่อ ‘วัดพระสิงห์’ นั้นเกิดขึ้นเมื่อพญาแสนเมืองอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานยังวัดนี้ เพราะชาวล้านนานิยมเรียกพระพุทธสิหิงค์ว่า ‘พระสิงห์’

พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานในพระอุโบสถของวัด เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร ตามประวัติเล่าว่าเจ้ามหาพรหมได้เชิญพระสิงห์มาจากเมืองกำแพงเพชรเพื่อถวายแด่พระเจ้าแสนเมืองมา แต่พอราชรถมาถึงวัดมีเหตุให้ต้องอัญเชิญประดิษฐานไว้ที่นี่ 

ในพระอุโบสถยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่หาชมได้ยากจากวัดอื่นๆ เนื่องจากส่วนใหญ่จะเขียนเรื่องราวพุทธประวัติ แต่ในพระอุโบสถแห่งนี้จะเขียนถึงเรื่องราวจากวรรณกรรมไทย โดยด้านขวาจะเขียนเรื่องสังข์ทอง ส่วนด้านซ้ายจะเป็นเรื่องสุพรรณหงส์ 

ส่วนพระเจดีย์ด้านนอกแม้ขนาดไม่ได้ใหญ่โตแต่ก็ปิดทองได้สวยงามมาก โดยเจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์ประจำปีมะโรง เพราะฉะนั้นถ้าคุณเกิดปีมะโรงก็ควรมากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลครับ

เยื้องกับอุโบสถคือ วิหารลายคำ ที่สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2061 แต่อาคารที่เห็นตอนนี้เป็นวิหารที่สร้างขึ้นภายหลัง ถือเป็นวิหารแบบล้านนาแท้ๆ จำนวนน้อยที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน และที่มาของวิหารลายคำก็เนื่องจากเสาด้านในจะมีลายคำ หรือลวดลายสีทองบนพื้นสีแดงซึ่งได้รับการยกย่องว่างดงามที่สุดในล้านนาอยู่นั่นเอง

นอกจากนั้นยังมีหอธรรม หรือหอไตร ที่มีการตกแต่งด้วยปูนปั้นรูปเทวดามากมาย เทวดาเหล่านี้น่าจะหมายถึงเทวดาที่ที่ช่วยรักษาพระธรรมซึ่งเก็บรักษาเอาไว้ภายในอาคารหลังนี้ ส่งผลให้หอธรรมหลังนี้กลายเป็นหนึ่งในหอธรรมที่งดงามที่สุดในภาคเหนือ

จากวัดพระสิงห์ ผมก็ไปกันยังวัดต่อไปซึ่งถ้าคุณเป็นสายโชคลาภ หรือสายหวย 555หรือต้องการสมหวังแบบปัจจุบันทันด่วน ก็ต้องมาวัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่ครับ

วัดพระธาตุดอยคำ

แต่เดิมชื่อ วัดสุวรรณบรรพต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านการขอพร บนบาน และเป็นวัดที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร บนวัดพระธาตุดอยคำ มีจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองเชียงใหม่ สนามบินเชียงใหม่ นอกจากนี้ยามค่ำคืนเมื่อมองขึ้นไปบนพระธาตุดอยคำจะเห็นองค์พระธาตุเหลืองอร่ามสว่างไสว ซึ่งมีความงดงามอย่างมาก

เป็นวัดที่คาดว่าสร้างในรัชสมัยพระนางจามเทวีแห่งหริภุญชัย ในปี พ.ศ. 1230 เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านเรียกว่า “วัดดอยคำ”

นอกจากพระธาตุดอยคำซึ่งเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า แล้วภายในวัดจะมีการสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สาธุชนมาสักการะมากมาย

แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่ทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาที่วัดแห่งนี้คือ หลวงพ่อทันใจ ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัย พญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ หวย ล็อตเตอรี่ หน้าที่การงาน รวมทั้งการขอพรให้สำเร็จในระยะเวลาอันสั้น 

ซึ่งถ้าใครสมหวังก็จะเดินทางกลับมาถวายดอกมะลิเพื่อแก้บน  ดังนั้นเมื่อมาถึงคุณจะเห็นพวงมาลัยดอกมะลิวางไว้สักการะพระทันใจจำนวนมาก

ด้านหลังวัดจะเป็นจุดชมวิว มองเห็นวิวได้ไกลถึงตัวเมืองเชียงใหม่ สนามบินเชียงใหม่ และที่เห็นได้ชัดในระยะใกล้ ก็จะเป็นอุทยานหลวงราชพฤกษ์

หลังจากไหว้พระขอพร ขอโชคขอลาภกันแล้ว ผมก็เดินทางไปทานมื้อเย็นกันที่ร้านอาหารที่ผมอยากจะแนะนำมากๆสำหรับคนที่ต้องการทานอาหารท่ามกลางสวนดอกไม้ นั่นคือร้านกาแล

ร้านกาแล

เป็นร้านอาหารที่เต็มไปด้วยดอกไม้เมืองหนาว เรียกว่าตั้งแต่เดินเข้ามาถึงทางเข้าร้าน คุณจะเห็นความตระการตาของดอกไม้นานาพันธุ์ที่ร้านนำมาปลูกและตกแต่งไว้แล้ว รู้ได้เลยว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ

หลังจากผ่านทางเข้าร้านมาแล้วจะเจอร้านเบเกอร์รี่รูปแบบทัยสมัยก่อนเลย ซึ่งบริเวณรอบๆก็ยังเต็มไปด้วยสวนดอกไม้แบบแน่นๆ

ร้านอาหารกาแล เป็นร้านที่เปิดบริการมาเกือบ 40  ปี แล้ว เป็นร้านอาหารที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติกลางเมืองเชียงใหม่ เพราะตั้งอยู่ริมอ่างเกษตร และอยู่บนพื้นที่สูง แวดล้อมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด  ที่สำคัญที่ร้านนี้จะมีการตกแต่งด้วยดอกไม้สวยๆ จำนวนมาก เรียกว่าทุกจุดทุกมุมของร้านจะมีดอกไม้สวยๆตกแต่งอยู่เป็นจำนวนมาก ให้ความเพลินเพลินทางอาหารตา อาหารใจ

สำหรับอาหารที่ร้านแห่งนี้จะมีทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารไทย และอาหารตะวันตกอื่นๆ คือเรียกว่าเมนูมีความหลากหลาย ราคาไม่ได้แพงนัก

วันนั้นผมก็สั่งอาหารมาทานหลากหลายอย่างทีเดียว รสชาติถือว่าดีครับ แต่อย่างที่บอกถ้าให้ความเป็นที่สุดเลยของร้านนี้ก็คงเป็นดอกไม้แน่นๆที่ปลูกอยู่ในร้านนี้แหละ

ผมเขียนรีวิวเกี่ยวกับร้านนี้ไว้ค่อนข้างละเอียดแล้วที่ Review ร้านกาแล ร้านอาหารกลางสวนดอกไม้ เชียงใหม่   ลองเข้าไปอ่านกันได้นะครับ

หลังจากวันนี้เดินทางเหนื่อยกันมาทั้งวันก็ได้เวลาที่ผมจะเข้าที่พักเพื่อไปพักผ่อน โดยโรงแรมที่ผมเลือกนั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองไปนิดหน่อย แต่มี Highlightสำคัญคือบรรยากาศการตกแต่งแบบโมร็อคโคที่สวยมากๆ จนคนที่รักการถ่ายรูปจะต้องติดใจกับโรงแรมที่ชื่อว่า 

Grand Morocco Hotel

จุดเด่นของโรงแรม The Grand Morocco จังหวัดเชียงใหม่คือการตกแต่งสไตล์ Moroccan ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสไตล์การตกแต่งที่ได้รับความนิยมสูงมากในระบะหลังๆ เพราะจะทำให้สถานที่มีบรรยากาศที่ดูหรูหรา สวยงาม มีรสนิยมขึ้นมาก

โรงแรม The Grand Morocco Hotel ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ริม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 17 กิโลเมตรและห่างจากสนามบินเชียงใหม่ 20 กิโลเมตร การเดินทางที่สะดวกที่สุดน่าจะต้องใช้รถส่วนตัวครับ

ผมเดินทางไปเที่ยงที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่และเข้าพักที่โรงแรมนี้ราวๆปลายเดือนกุมภาพันธ์2563 ซึ่งในขณะนั้นโรงระบาด Covid-19 เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ในประเทศไทยเองยังไม่มีการระบาดแพร่หลาย จึงยังไม่มีมาตรการอะไรที่เข้มงวด โดยเฉพาะการเดินทาง แต่คนไทยก็เริ่มตระหนักแล้วว่าโรคนี้มีความน่ากลัวจึงงดการเดินทางท่องเที่ยวกันจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจีนมากๆ ดังนั้นช่วงที่ผมเดินทางไปพักที่โรงแรมนี้จึงเรียกว่าค่อนข้างเงียบเหงามีแขกไปพักน้อยมากๆ

เมื่อไปถึงโรงแรมจะมีลานจอดรถอยู่ด้านหน้า และแค่ทางเข้ากับตัวตึกที่พักก็จะเริ่มเห็นความสวยงามของศิลปะแบบ Moroccan ยิ่งเมื่อเข้าไปถึงLobby ของโรงแรมก็จะเห็นความสวยงามของศิลปะแนวนี้แบบชัดเจน ทั้งลวดลายการตกแต่ง โดยเฉพาะสีทองอร่ามที่แทรกไปในเกือบทุกลวดลายให้ความหรูหรามากจริงๆครับ

ผมไปถึงโรงแรมนี้ตอนค่ำ เมื่อ Check in เสร็จแล้ว ผมต้องเดินไปอีกตึกหนึ่งซึ่งเป็นตึกที่พัก โดยเมื่อเข้าไปในตึกก็จะเจอสระน้ำกลางตึกที่ถือเป็น Highlight สำคับที่สุดของโรงแรมนี้

ทันทีที่เห็นต้องใช้คำว่า Stunningครับ คือสวย สวยมาก

นอกจากสระน้ำแล้ว ระหว่างทางเดินไปห้องพักก็จะเจอการตกแต่งประดับประดาที่สวยงามที่ตลอดทาง แม้กระทั่งลิฟต์ก็สวยทั้งด้านนอกและด้านใน

รอบนี้ผมจองห้องพักแบบ 2 bedrooms suite ซึ่งปกติจะมีราคา12,000 บาทต่อคืน แต่ผมได้ราคาพิเศษ (อาจจะเพราะเป็นช่วง Covidด้วย) ในราคาไม่ถึงหมื่น

ในห้องมีการตกแต่งที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ตามแบบ Moroccanจริงๆ อย่างเช่นที่พักส่วนของห้องรับรองก็จะเป็นที่นั่งแบบติดพื้นสไตล์โมร็อคโกเลย

ภายในห้องจะมีห้องนอนใหญ่ 1 ห้องเป็นเตียงใหญ่ และ ห้องเล็กแบบเตียง Twin

นอกจากนั้นยังมีห้องครัวที่ค่อนข้างใหญ่ มี Counter ทำอาหาร เตาไฟฟ้า และเครื่องทำกาแฟ รวมทั้งตู้เย็นขนาดใหญ่เตรียมไว้ให้พร้อม เรียกว่าถ้าหิวกันดึกๆและมีวัตถุดิบก็สามารถทำอาหารทานกันในห้องได้เลย

แต่ที่ surprise ผมมากคือมีเครื่องซักผ้าและผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่มเตรียมไว้ให้ด้วย

ในห้องก็มีเตารีดกับที่รองรีดเตรียมไว้ให้ด้วย เรียกว่า Facility นี่ครบมากๆเลย

ในส่วนของระเบียงจะมีโต๊ะ เก้าอี้ให้เราออกมานั่งชมบรรยากาศด้านนอกได้

ในส่วนของห้องน้ำก็สวยงามไปตามแบบ ทั้งการตกแต่งและข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะฝักบัวแบบ Rain Shower เป็นอะไรที่ผมชอบมาก

ทั้งห้องพักจะมีขนาด 60 ตารางเมตรซึ่งก็ถือใหญ่มากแล้ว แต่ด้วยดีเทลและ Function การใช้งานที่ทางโรงแรมมีให้เยอะกว่าปกติทำให้ห้องอาจจะดูไม่ได้กว้างขวางมากกนะครับ

หลังจากสำรวจห้องกันแล้ว ก็ได้เวลาออกไปสำรวจสระน้ำกันอีกรอบซึ่งให้ความรู้สวยลึกลับอย่างน่าประหลาด โดยเฉพาะหลังคาเปิดโล่งตรงกลางเหนือสระน้ำที่ทำให้เราเห็นท้องฟ้าไปในอีกแบบที่ให้ความรู้สึกน่าหลงใหลจริงๆ

คืนนั้นผมกลับมานอนในห้องแบบมหาราชา ให้ความรู้สึกแตกต่างกับการนอนที่ภูใจใสรีสอร์ท อย่างสิ้นเชิง เมื่อคืนคือเหมือนไปนอนในกระท่อมกลางธรรมชาติ วันนี้มานอนแบบมหาราชาแล้ว

พรุ่งนี้ผมจะพาไปชมความสวยของ Review โรงแรม The Grand Morocco, เชียงใหม่ ตอนกลางวันแบบเต็มๆ และการท่องเที่ยววันสุดท้ายในเชียงใหม่ของผม กับสวนดอกไม้อีกแห่งที่สวยมากๆ รอติดตามนะครับ

อยากให้คุณไปอยู่ตรงนั้นด้วยกัน

รักและคิดถึง

Mgastronome

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s