ถึง…เธอ
หลังจากจดหมายฉบับที่แล้ว ผมนำคุณมาถึงภูเก็ต เมืองแห่งการท่องเที่ยวที่ดังระดับโลกแล้ว วันนี้ผมจะเริ่มนำคุณท่องเที่ยวไปในสถานที่ highlight ของเมืองนี้กัน
หลังจากตื่นเช้า พวกผมก็มาใช้สระน้ำยาวหน้าห้องออกกำลังกายกันก่อน ได้ว่ายน้ำตอนเช้าๆพร้อมวิวสวยๆแบบนี้มีพลังขึ้นมาเยอะเลยครับ


หลังจากออกกำลังเอาแคลอรี่ออกไปแล้ว ก็ได้เวลาไปทานอาหารเช้ากันที่โรงแรมซึ่งถือว่าอาหารดีได้มาตรฐานโรงแรม 5 ดาว แม้จะรู้สึกว่าความหลากหลายอาจจะยังไม่มาก เมื่อเทียบกับหลายๆโรงแรมที่ผมเคยไปพัก
ผมเขียนนรีวิวเกี่ยวกับโรงแรมนี้ไว้เต็มๆ แล้วที่ Review Crest Resort and Pool Villa จังหวัดภูเก็ต ลองไปอ่านกันได้นะครับ








วันนี้ยังต้องไปเดินทางท่องเที่ยวกันทั้งวัน แถมสถานที่แรกยังต้องใช้แรงค่อนข้างเยอะ เลยจัดเต็มกันตั้งแต่เช้าเลยครับ



อิ่มกันแล้วก็ได้เวลาไปเที่ยวกันครับ โดยจุดแรกที่ผมจะไปเที่ยววันนี้คือ ผาหินดำ จุดชมวิวภูเก็ตแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยระหว่างขับรถผ่านปางช้าง เลยแวะไปให้อาหารกันหน่อยครับ เพราะช่วงนี้ได้ข่าวไม่มีนักท่องเที่ยวเลย

จากนั้นผมก็เดินทางไปสถานที่เที่ยวแรกของวันนี้
ผาหินดำ
เป็นจุดชมวิวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเป็นที่นิยมมาไม่นาน แต่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะที่นี่คือจุดชมวิวอ่าวภูเก็ตแบบ 180องศาเลย สามารถมองเห็นได้ทั้งแหลมพรหมเทพ เกาะต่างๆ เช่น เกาะเฮ เกาะโหลน เกาะไม้ท่อน รวมทั้งหาดต่างๆมากมายเลย

สำหรับการเดินทางไปผาหินดำ คงต้องมีรถส่วนตัวจะเป็นรถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซด์ก็ได้ แต่ถ้าเป็นรถยนต์ควรมีกำลังแรงพอสมควรเพราะต้องขับขึ้นเขา รวมทั้งถนนยังเป็นดินแดง ถ้ามีฝนก็อาจจะมีหลุมหรือบ่อโคลนเป็นระยะๆ

เมื่อขึ้นไปถึงจุดนึงก็ต้องจอดรถแล้วเดินขึ้นไปต่อ


ระยะทางการเดินไม่ได้ไกลมากนะคับ แต่ทางขึ้นค่อนข้างชัน และเส้นทางแคบ ต้องปีนหินบ้างเป็นบางช่วง ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง แต่ไม่ได้ยากลำบากมาก เดินขึ้นได้แน่นอนครับ



เมื่อขึ้นไปถึงแล้วเรียกว่า หายเหนื่อยเลยครับ เพราะวิวเว่อร์วังอลังการมากจริงๆ สามารถเห็นวิวสวยๆขนาดนี้ คือหายเหนื่อยจริงๆ




แถมบริเวณจุดชมวิวยังมีทุ่งหญ้าสวยๆ เพิ่มความสวยงามให้ลานชมวิวแห่งนี้อีกด้วย เรียกว่าถ่ายรูปกันเพลินเลย


นอกจากการถ่ายรูปแล้ว ผมอยากแนะนำให้นั่งเฉยๆ ชมวิว ปล่อยใจ ปล่อยอารมณ์ ไปกับสายลมที่พัดผ่าน กับวิวสวยๆ ช่วงเวลาฟินๆแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆนะครับ

จากจุดชมวิวผาหินดำ ก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยงกันพอดี ซึ่งวันนี้ผมเลือกไปทานร้านอาหารพื้นบ้านแท้ๆ ที่ไม่ได้ข่าวว่าจัดจ้านสุดในย่านนี้ นอกจากนั้นยังเป็นร้านที่มิชลินไกด์ 2019 แนะนำให้มาลิ้มลอง
ร้าน หมอมูดง
ชื่อร้านหมอมูดง มาจากชื่อของเจ้าของร้านที่มีชื่อเล่นว่า หมอ ส่วนชื่อของมูดงเป็นชื่อของคลองที่ร้านตั้งอยู่ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อร้านนั่นเอง
มาถึงที่ร้าน ที่จอดรถของร้านค่อนข้างกว้างขวางจอดได้สบายๆเลย ส่วนร้านนั้นมีบรรยากาศแบบธรรมชาติมากๆ มีการแบ่งออกเป็นซุ้มๆ โดยแต่ละซุ้มเป็นรูปแบบของหลังคามุมจาก แต่ละซุ้มจะมีโต๊ะอยู่ 4-5 โต๊ะ ที่สำคัญทุกซุ้มจะอยู่ติดกับป่าชายเลน ให้บรรยากาศธรรมชาติจริงๆ






เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของร้านนี้คือเมื่อคุณสั่งอาหารแล้ว ร้านจะเสิร์ฟผลไม้จิ้มเกลือมาให้ทานเล่นฟรีๆ ระหว่างรอกันก่อนเลย คือเป็นไอเดียที่ดีมากเลยครับ

วันนั้นผมทานเมนูแนะนำหลายๆเมนูของร้าน อาทิ แกงส้ม น้ำพริกกุ้งเสียบ ยำมะเขือยาว ไก่รวน






ต้องบอกเลยครับว่ารสชาติอร่อยมากๆ แต่…ความจัดจ้านของความเผ็ดนั้นก็มากกกกเหมือนกัน ดังนั้นถ้าใครทานเผ็ดไม่ค่อยได้อาจจะไม่ถูกใจนัก แต่รสชาตินั้นอร่อยจริงๆครับ
ร้านหมอมูดง เปิดบริการทุกวัน 10.00-21.30 น. แต่จะปิดทุกวันที่ 15 แต่ถ้าวันที่ 15 ตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ จะเลื่อนมาปิดวันจันทร์ถัดมาครับ
อิ่มกันแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยวกันก่อน โดยจุดหมายต่อไปเป็นสถานที่ๆใครมาภูเก็ตจะพลาดไม่ได้
ย่านเมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town)
เป็นพื้นที่เมืองเก่าที่ตึกรามบ้านช่องบริเวณนี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี แม้จะมีการทาสีตกแต่งใหม่แต่รูปทรงของตึกที่เป็นแนวเพอนารากันและชิโนโปตุกีสก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของตึกย่านนี้ที่สร้างเสน่ห์ให้บริเวณเมืองเก่าแห่งนี้มีความน่าสนใจไม่เหมือนใคร




การจอดรถในย่านเมืองเก่าต้องจอดริมถนนในย่านนั้นซึ่งมักจะเต็มตลอดเวลา แต่ผมแนะนำให้ขับวนไปเรื่อยๆ คับเพราะมันก็จะมีรถเข้าออกตลอดเวลา และถ้าเจอช่องว่างแล้วผมแนะนำให้รีบจอดเลยอย่าไปหวังน้ำบ่อหน้า

และเมื่อไปเดินในย่านเมืองเก่าแล้วก็ไม่ต้องกลัวหลงนะครับเพราะถนนแต่ละเส้นก็จะเชื่อมถึงกันหมดเลย แค่จำที่จอดรถของตัวเองให้ดี


นอกจากนั้นในย่านเมืองเก่านี้ยังมี งานสตรีทอาร์ท(Street Art)แทรกอยู่ตามจุดต่างๆ ให้คนรักศิลปะได้เดินชมกันด้วยครับ โดยงานที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจะอยู่ที่ถนนถลางและซอยรมณีย์ซึ่งเป็นถนนสายประวิติศาสตร์อันเก่าแก่ เป็นงานของศิลปิน Street Art ชื่อดังมากๆ อย่างคุณ พัชรพล แตงรื่น หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Alex Face ที่โด่งดังจากการสร้าง “น้องมาร์ดี” ที่ได้แรงบันดารใจมาจากลูกสาว จึงเป็นภาพเด็กน้อย 3 ตา หน้าบึ้ง ที่ใส่ชุดมาสคอตกระต่าย เป็นภาพจำที่เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก



สำหรับผลงานน้องมาร์ดีที่นี่จะเป็นภาพน้องมาร์ดีในเต่าสีแดงเพื่อแสดงถึงการมีอายุยืน
อีกภาพใกล้ๆกันคือภาพนก ผลงานของคุณรักกิจ ควรหาเวช เจ้าของเอกลักษณ์งานแบบ geometric ซึ่งได้แนวคิดจากขนมของเด็กวัยเรียนที่สะท้อนความสนุกสนาน ความทรงจำของวัยซน
นอกจากนั้นยังมีงานที่น่าสนใจอีกมากเลยครับ
ในซอยรมณีย์ยังมีตึกเก่าสีสันสวยงามเรียงแถวกัอย่างสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่เจอได้แค่ที่ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ โดยในซอยนี้มีร้านค้า ร้านกาแฟมากมาย แต่ละร้านตกแต่งได้สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ น่าเข้าไปชมหมดเลย


แต่วันนี้ผมตัดสินใจไปทานชื่อดังร้านหนึ่งในย่านเมืองเก่าแห่งนี้ที่ถ้าใครมาผมแนะนำให้ไปลองทานกันครับ เพราะสวยงามทั้งร้าน และขนมก็อร่อยด้วย
Torry’s Ice Cream
ร้านไอศกรีมโฮมเมดแบบพรีเมียมที่นำอาคารเก่าของสำนักพิมพ์ผลิตแผ่นพับภาษาอังกฤษชื่อ Art and Culture ที่อยู่คู่เมืองภูเก็ตมานับ 10 ปีมาปรับปรุงใหม่ กลายเป็นร้านไอศกรีมที่ดูชิคที่สุดในย่านนี้

บรรยากาศภายในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจ เน้นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือนสีเข้ม รูปทรงและศิลปะแบบโบราณที่นิยมใช้กันในหมู่คหบดีจีนทางใต้ ตัดด้วยข้าวของเครื่องใช้สีทองหรูหราทั้งกาน้ำชา จานชามต่าง ๆ รวมทั้งมีการใช้ดอกไม้ดอกใหญ่ๆ สีสันฉูดฉาดบาดตามาสร้างความสดใส ทำให้บรรยากาศในร้านได้ความรู้สึกแบบหลายอารมณ์มาก ทั้งความเก่าแก่ แอนทีค ความหรูหรา และมีความสดใสไม่ดูขลึมจนเกินไป







ไอศกรีมที่ร้านนี้เป็นไอศครีมโฮมเมดที่ทางร้านคิดค้นรสชาติต่างๆขึ้นมาเอง สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือการที่ทางร้านนำผลไม้หรือขนมท้องถิ่นของภูเก็ตและคนใต้มาสร้างไอศครีมรสใหม่ๆ จนมีไอศครีมรสชาติต่างๆกว่า 70 รสชาติ
Highlight ของร้านที่ถ้าคุณมาแล้วต้องสั่งให้ได้ นั่นคือไอศกรีมกะทิอัญชัน ที่มาคู่กับรสชาติของ ‘บีโกหมอย’ หรือข้าวเหนียวดำของชาวพื้นเมืองภูเก็ต ที่อร่อยมากๆ ( จริงๆผมชอบข้าวเหนียวดำกะทิในเมนูนี้มากกว่าไอศกรีม 555)




นอกจาก, นั้นยังมีไอศกรีมอีกเยอะมาก อาทิ ไอศกรีมอาโป๊ง ซึ่งนำขนมอาโป๊งมาผสมในเนื้อไอศกรีมกะทิรสเนียนนุ่ม, ไอศกรีมโอเอ๋ว ไอศกรีมงาดำ-ขนมขี้มัน และสำหรับใครที่ชื่นชอบไอศกรีมซอร์เบท พลาดไม่ได้กับไอศกรีมสับปะรดภูเก็ต นอกจากนั้นยังมีอักเยอะมากจนผมบรรยายไม่หมด จะทานเป็นไอศกรีมเดี่ยว หรือมาแบบเซตๆกับขนมอื่นๆก็ได้


อิ่มทั้งอาหารเที่ยง มาต่อเนื่องขนมบ่าย พวกผมก็เดินเล่นกันย่านนี้จนถึงเย็น ก่อนจะกลับโรงแรมเพื่อไปพัก เตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวภูเก็ตวันสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ ที่ผมจะรีบเขียนมาเล่าให้คุณอ่านกันครับ


อยากให้คุณไปอยู่ตรงนั้นด้วยกัน
Mgastronome
Fanpage M Eat and Travel